Page 353 - kpi12821
P. 353
ณรงค์เดช สรุโฆษิต
ผู้วิจัยเห็นว่า การลดหรืองดให้เงินสนับสนุนแก่พรรคการเมืองเป็นอีกทาง
เลือกหนึ่งที่กระทบสิทธิเสรีภาพของพรรคการเมืองและสมาชิกพรรคการเมืองน้อยกว่า
การยุบพรรคการเมือง และสมควรนำมาใช้กับกรณีที่พรรคการเมืองละเลยไม่นำส่ง
รายงานกิจการ รายงานเงินสนับสนุน นำส่งล่าช้า รายงานไม่ถูกต้อง ใช้จ่ายผิด
วัตถุประสงค์ หรือแม้แต่กรณีที่มีการทุจริตร่วมด้วย
9.2 การกำหนดความรับผิดในทางแพ่งอย่างลูกหนี้ร่วม
นอกจากนี้ ยังมีอีกมาตรการหนึ่งที่มีประสิทธิภาพมากพอสมควร และ
มีความเหมาะสมอย่างยิ่งที่จะนำมาปรับใช้กับการกระทำผิดเกี่ยวกับการเงินของ
พรรคการเมือง คือ การกำหนดให้คณะกรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดชดใช้ความ
เสียหายต่อ กกต. และต่อพรรคการเมืองอย่างลูกหนี้ร่วม
แม้ว่ามาตรา 86 ของกฎหมายพรรคการเมืองจะกำหนดให้นำหลักลูกหนี้
ร่วมมาใช้ในระหว่างบรรดาหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคในกรณีที่
พรรคการเมืองไม่คืนเงินกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองแล้วก็ตาม แต่กรณีก็จำกัด
อยู่แต่เฉพาะการเรียกคืนเงินสนับสนุนและดอกเบี้ยในกรณีที่พรรคการเมืองไม่ดำเนิน 1
การให้เป็นไปตามแผนการดำเนินงานและแผนการใช้จ่ายเงิน ดำเนินการไม่ถูกต้อง หรือ
เป็นกรณีที่ความเป็นนิติบุคคลพรรคการเมืองต้องสิ้นสุดลงไปเท่านั้น หลักความรับผิดใน
ทางแพ่งอย่างลูกหนี้ร่วมหาได้นำมาใช้กับกรณีที่พรรคการเมืองไม่ชำระโทษปรับทาง
ปกครองหรือโทษปรับอาญาแต่อย่างใดไม่ 98
และที่สำคัญ ด้วยความที่พรรคการเมืองเป็นนิติบุคคลแยกต่างหากจาก
บุคคลผู้เป็นหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค และสมาชิกพรรค และมีกองทรัพย์สิน
เป็นของตนเอง หากหัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคกระทำการทุจริต ละเลย
ต่อหน้าที่ หรือแม้แต่บริหารงานผิดพลาด เป็นเหตุให้พรรคการเมือง (ก) ถูกลดหรือถูก
ตัดสิทธิมิได้รับเงินสนับสนุนที่พึงจะได้รับตามปกติในปีถัดไป ซึ่งเป็นอีกหนึ่งมาตรการที่
98 ทั้งนี้ อาจมีข้อถกเถียงว่า กรรมการบริหารพรรคต้องรับผิดอย่างลูกหนี้ร่วมตามหลักทั่วไปอยู่แล้ว; อนึ่ง
โทษปรับทางอาญาที่อาจลงแก่พรรคการเมือง ได้แก่ มาตรา 104 แต่สำหรับโทษปรับทางปกครองนั้น กฎหมาย
ปัจจุบัน มิได้กำหนดให้พรรคการเมืองต้องรับผิด หากแต่กำหนดให้เป็นความรับผิดของคณะกรรมการบริหาร
พรรค หัวหน้าพรรค หรือกรรมการบริหารพรรค โปรดดู พรป. พรรคการเมือง 2550, ม. 122 – 132; เหตุที่ผู้วิจัย
เสนอไว้ข้างต้นเพราะต้องการให้มีการนำมาตรการโทษปรับทางปกครองมาใช้ให้มากขึ้น ทั้งนี้โปรดเทียบกฎหมาย
พรรคการเมืองของเยอรมันที่อธิบายไว้ในหน้า 112 – 114; สเปนในหน้า 156 - 157; และเกาหลีใต้ในหน้า 177 –
178 ของรายงานวิจัยนี้.