Page 40 - kpi10607
P. 40
ฝ่าวิกฤต สร้างโอกาส บทบาทท้องถิ่นไทย
และต้องไม่เป็นเรื่องเกี่ยวกับการให้ความเห็นชอบหรือไม่เห็นชอบตัวบุคคล เชื้อชาติ ศาสนา หรือ
เรื่องที่มีผลกระทบต่อความมั่นคงของรัฐ
สามารถริเริ่มให้มีการทำประชามติได้ 3 ช่องทาง ได้แก่ 1) ผู้บริหารท้องถิ่น 2) สมาชิกสภาท้องถิ่น สถาบันพระปกเกล้า
เข้าชื่อไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นหมด หรือ 3) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นที่จะได้รับผลกระทบจากการกระทำขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นจำนวน
ไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง หรือผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
จำนวนไม่น้อยกว่าสามพันคนในกรณีที่จำนวนหนึ่งในห้าของจำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กร
ปกครองส่วนท้องถิ่นมีจำนวนมากกว่าสามพันคน โดยความเห็นชอบของสมาชิกสภาท้องถิ่นด้วย
คะแนนเสียงไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนสมาชิกสภาท้องถิ่นทั้งหมด ทั้งนี้ ในกรณีของ อบจ. และ
กทม. จำนวนผู้ร้องขอให้มีการจัดทำประชามติให้เป็นไปตามที่คณะกรรมการการกระจายอำนาจ
กำหนด
เช่นเดียวกับการจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็น การทำประชามติจะต้องให้ข้อมูลรายละเอียดของ
การดำเนินการแก่ประชาชนโดยละเอียดก่อนการลงคะแนนประชามติ และกรณีของผลของการทำ
ประชามติ หากมีการตัดสินใจดำเนินการตามผลประชามติ แล้วมีผลกระทบเกิดขึ้น องค์กรปกครอง
ส่วนท้องถิ่นต้องรับผิดชอบเยียวยาผู้ที่ได้รับผลกระทบนั้น
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นเป็นผู้ดำเนินการจัดให้มีการออกเสียงประชามติ ตามระเบียบที่
คณะกรรมการการเลือกตั้งกำหนด รวมถึงเป็นผู้รับผิดชอบค่าใช้จ่ายในการดำเนินการออกเสียง
ประชามติทั้งหมด
กรณีของคะแนนเสียงที่จะถือว่ามีข้อยุติ กำหนดให้การทำประชามตินั้นจะต้องมีผู้มาออกเสียง
ไม่น้อยกว่ากึ่งหนึ่งของจำนวนผู้มีสิทธิออกเสียงทั้งหมดในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น และการ
ออกเสียงต้องมีจำนวนเสียงข้างมากของผู้มีสิทธิออกเสียงที่มาออกเสียง หากมีผู้มาใช้สิทธิไม่ถึงกึ่ง
หนึ่งให้ถือว่าการลงคะแนนนั้นตกไป
5) การลงคะแนนเสียงเพื่อถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นหรือผู้บริหารท้องถิ่น
มีสาระสำคัญคือ
ลดจำนวนประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่สามารถเข้าชื่อร้องขอเพื่อดำเนินการให้มีการลงคะแนนเสียง
ถอดถอนสมาชิกสภาท้องถิ่นผู้ใดหรือผู้บริหารท้องถิ่น เพื่อให้สอดคล้องกับการถอดถอนผู้ดำรง
ตำแหน่งทางการเมืองระดับชาติ ซึ่งกำหนดเกณฑ์ผู้มีสิทธิเลือกตั้งที่จำนวน 20,000 คน โดยถือ
เกณฑ์จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งขององค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นแต่ละแห่งดังนี้
(1) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งไม่เกินห้าหมื่นคนต้องมีผู้เข้าชื่อไม่น้อยกว่าหนึ่งในห้าของจำนวนผู้มีสิทธิ
เลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น
(2) ผู้มีสิทธิเลือกตั้งเกินห้าหมื่นคนแต่ไม่เกินห้าแสนคนต้องมีผู้เข้าชื่อไม่น้อยกว่าหนึ่งหมื่นคนของ
จำนวนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นนั้น