Page 97 - kpiebook67039
P. 97
96 กลยุทธ์การจัดกระบวนการเกมเพื่อส่งเสริมทักษะความเป็นพลเมือง
ในมาเลเซีย ฟิลิปปินส์ และไทย : กรณีศึกษาเกม Sim Democracy
5.2 ความเป็ นสถาบันและระบบพรรคการเมือง
จากมุมมองของการพัฒนาประชาธิปไตย ลักษณะประการหนึ่งของประเทศฟิลิปปินส์
คือการที่สถาบันการเมืองยังคงมีความอ่อนแอ (Hutchcroft & Rocamora, 2003) กล่าวคือ
สถาบันการเมืองที่เป็นเสาหลักของประชาธิปไตยยังไม่สามารถท�างานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ไม่ว่าจะเป็นฝ่ายนิติบัญญัติ กลไกการตรวจสอบการใช้อ�านาจรัฐ หรือแม้กระทั่งพรรคการเมือง
หากแต่ตกอยู่ภายใต้การครอบง�าบงการของเครือข่ายชนชั้นน�า (Oligarchic network)
ทางการเมือง-เศรษฐกิจ (Arugay & Slater, 2019) สภาวะเช่นนี้ท�าให้อ�านาจในการก�าหนดทิศทาง
การบริหารประเทศและนโยบาย ตลอดจนผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจตกอยู่ที่เครือข่ายชนชั้นน�า
(Hutchcroft, 1991; Kang, 2002) อีกทั้งไม่เอื้ออ�านวยให้เกิดการสร้างกลไกการตรวจสอบ
ถ่วงดุลที่เข้มแข็ง ปัญหาที่เกิดขึ้นตามมา คือการทุจริต (Corruption) ในระดับที่สูง Batalla
(2020) กล่าวว่าในกรณีของประเทศฟิลิปปินส์วัฒนธรรมการทุจริตในหมู่ผู้น�าระดับสูงทางการเมือง
เกิดขึ้นมาโดยตลอดไม่ว่าประเทศจะอยู่ภายใต้ระบอบเผด็จการหรือระบอบประชาธิปไตยเพราะ
เหตุว่าโครงสร้างการบริหารและปกครองของรัฐมีความอ่อนแอ ดังนั้นผลประโยชน์จากการจัดสรร
ทรัพยากรของรัฐจึงไปตกอยู่ที่กลุ่มชนชั้นน�ามากกว่าที่จะถูกบริหารจัดการเพื่อให้เกิดประโยชน์
กับประชาชนโดยทั่วไป ในแง่นี้ประเทศฟิลิปปินส์จึงมีตระกูลทางการเมือง (Political dynasty)
ที่มีความได้เปรียบทางการเมือง และท�าให้การแข่งขันทางการเมืองที่บริสุทธิ์ยุติธรรมเกิดขึ้นยาก
(Tadem & Tadem, 2016)
นอกจากนี้พรรคการเมืองในประเทศฟิลิปปินส์ก็มีระดับความเป็นสถาบันต�่า กล่าวคือ
นโยบายพรรคการเมืองไม่ส�าคัญเท่ากับความนิยมในตัวบุคคล มีการตั้งพรรคการเมืองเพื่อรองรับ
ตัวบุคคล และนักการเมืองไม่ได้มีความซื่อสัตย์ต่อพรรคการเมือง สังเกตจากการย้ายพรรค (Party
switching) ของนักการเมืองที่เกิดขึ้นสม�่าเสมอ (Hicken, 2018) อนึ่ง White III (2015: 165)
ถึงกับกล่าวว่า “ชื่อพรรคแทบไม่มีความหมายในการคาดการณ์ผลการเลือกตั้งทั้งสภาผู้แทนราษฎร
และวุฒิสภา” ในแง่นี้เครือข่ายครอบครัวจึงเป็นปัจจัยที่ส�าคัญในการคาดการณ์ผลการเลือกตั้ง
ในประเทศฟิลิปปินส์ (Cruz et al., 2017) นอกจากนี้การเมืองฟิลิปปินส์ยังเผชิญกับการเกิดขึ้น
ของพรรคการเมืองใหม่สม�่าเสมอ ในแง่พฤติกรรมการเลือกตั้ง ผู้เลือกตั้งในประเทศฟิลิปปินส์
ลงคะแนนโดยมักจะพิจารณาว่าผู้สมัครมาจากตระกูลทางการเมืองใด มากกว่าพรรคการเมือง
ที่สังกัด กล่าวคือ ผู้เลือกตั้งจะพิจารณาสายสัมพันธ์ทางสังคมที่ใกล้ชิดกันระหว่างผู้ลงสมัคร
รับเลือกตั้งกับตนเอง (Ravanilla, 2022) หากพิจารณาจากมุมมองเรื่องพัฒนาการประชาธิปไตย
การให้ความส�าคัญกับเครือข่ายครอบครัวจะเป็นการค�้าจุนความสัมพันธ์แบบอุปถัมภ์ที่เป็นอุปสรรค
ต่อการสร้างโครงสร้างรัฐที่เข้มแข็งภายใต้ระบอบประชาธิปไตย แต่หากพิจารณาจากมุมมองด้าน
ประชาสังคม ความสัมพันธ์ที่มีครอบครัวเป็นแก่นกลางก็มีประโยชน์ในการส่งเสริมความเป็นพลเมือง