Page 52 - kpiebook67039
P. 52
51
ความสามารถในการปรับตัวขององค์กร Gulati et al. (2012) ย�้าว่าการปรับตัวและเปลี่ยนวิธีการ
ท�างานขององค์กรเพื่อให้สอดรับกับการท�างานกับภาคีเครือข่ายเป็นมิติที่ละเลยไม่ได้ในกลยุทธ์
การประสานเครือข่าย ดังนั้น ปฏิสัมพันธ์ที่เกิดขึ้นระหว่างการท�างานร่วมกันระหว่างองค์กรจะท�าให้
เกิดการเรียนรู้รูปแบบและวิธีการท�างานขององค์กรอื่นผ่านทั้งการเจรจาต่อรอง การร่วมวางแผน
และออกแบบวิธีการด�าเนินงาน ตลอดจนความคุ้นเคยของคณะท�างานของแต่ละองค์กร
ในท�านองเดียวกัน การที่องค์กรสามารถท�างานได้โดยเคลื่อนไปมาระหว่างบริบทที่ต่างกัน
(Inter-context connectivity) ก็เป็นหนึ่งในตัวชี้วัดขีดความสามารถในการปรับตัวขององค์กร
(Manning, 2019)
อีกเงื่อนไขหนึ่งครอบคลุมมิติงบประมาณในการท�างาน ประเด็นนี้ส�าคัญเป็นพิเศษ
กับองค์กรภาคประชาสังคมที่ไม่แสวงผลก�าไรในแง่ของแหล่งทุนในการท�างานขององค์กร Jang
& Feiock (2007) ชี้ให้เห็นว่าการท�างานกับภาคีเครือข่ายอื่น ๆ ขึ้นอยู่กับความคาดหวังและ
ความต้องการของผู้ให้ทุน ตามนัยนี้ หากผู้ให้ทุน โดยเฉพาะในภาครัฐ มุ่งหวังให้เกิดการประสาน
เครือข่าย ก็คาดหมายได้ในระดับหนึ่งว่าวิธีการนี้จะเพิ่มแรงจูงใจให้องค์กรผู้รับทุนยินดีที่จะท�างาน
ภายใต้เครือข่าย ในทางกลับกัน การแข่งขันกันระหว่างองค์กรต่าง ๆ เพื่อเข้าถึงทุนประเภท
เดียวกันหรือแหล่งทุนเดียวกัน ก็อาจมาพร้อมกับการแข่งขันกันมากกว่าการท�างานร่วมกัน เงื่อนไข
ประการต่อมาเกี่ยวกับบริบทหรือสิ่งแวดล้อมที่อาจทั้งน�ามาซึ่งความส�าเร็จ และข้อจ�ากัดของ
การประสานงานระหว่างองค์กร มุมมองนี้ให้น�้าหนักกับวิธีการที่องค์กรรับมือหรือจัดการกับโอกาส
และความท้าทายที่ก�าลังเผชิญอยู่ในสิ่งแวดล้อมหรือบริบทที่ห้อมล้อมองค์กร (Dwyer & Oh 1987)
ตั้งแต่เรื่องของความใกล้ชิดกันในเชิงพื้นที่ บรรยากาศของสังคมและการเมือง ณ ช่วงเวลาหนึ่ง
ตลอดจนมาตรการทางกฎหมาย และนโยบายที่เกี่ยวข้องหรืออาจส่งผลต่อการท�างานขององค์กร
ประเด็นเหล่านี้สามารถส่งผลต่อการประสานความร่วมมือระหว่างองค์กรได้ทั้งสิ้น กระนั้นก็ตาม
พึงหมายเหตุไว้ ณ ที่นี้ด้วยว่าความเข้าใจหรือทัศนะที่มีต่อบริบทและสิ่งแวดล้อมเป็นเรื่องของ
การรับรู้ของปัจเจกบุคคลด้วย (Duncan, 1972) หมายความว่าแต่ละคนอาจจะตีความบริบท
แวดล้อมเดียวกัน แตกต่างกันออกไปอย่างสิ้นเชิง
แม้ว่างานศึกษาจ�านวนมากที่กล่าวมาในข้างต้นจะชี้ให้เห็นถึงประโยชน์ของการประสาน
สร้างความร่วมมือระหว่างองค์กรในรูปแบบเครือข่าย วรรณกรรมอีกชุดหนึ่งพบว่าการเข้าสู่
เครือข่ายไม่ได้สร้างประโยชน์ให้กับองค์กรเท่านั้น แต่ยังมีกรณีที่การเข้าสู่เครือข่ายไม่เป็นประโยชน์
กับองค์กร ยกตัวอย่างเช่น ข้อพึงระวังในการท�างานภายในเครือข่ายคือการท�างานที่ไม่ตรงกับ
พันธกิจขององค์กรอันจะน�ามาสู่การที่องค์กรจะต้องร่วมท�ากิจกรรมที่ไม่ตรงกับเป้าหมายของตน
(Jones, 2007) แม้ว่าการประสานงานระหว่างองค์กรจะมีข้อดีหลายประการ ข้อจ�ากัดที่ต้อง
พิจารณา คือ การท�างานในลักษณะภาคีเครือข่ายท�าให้องค์กรบรรลุวัตถุประสงค์ที่ตั้งไว้มากน้อย
เพียงใด นอกจากประเด็นเรื่องเป้าหมายที่ไม่ตรงกันแล้ว ยังมีเรื่องคุณภาพในการท�างานขององค์กร