Page 516 - kpiebook67020
P. 516
515
หรือนักการสื่อสารในฐานะผู้ผลิตข่าวสารในยุคดั้งเดิมและผูกขาดการเป็น “ผู้ดูแลประตู
ข่าวสาร” แต่คนทั่วไปในสังคมสามารถเป็นพยานรู้เห็นเหตุการณ์ แสดงความคิดเห็น
บันทึกและเผยแพร่เหตุการณ์นั้นให้เป็นที่รับรู้ในสังคม (Cherilyn Ireton, 2018)
เพียงแค่มีอุปกรณ์การสื่อสารส่วนบุคคลและบัญชีผู้ใช้งาน (Account) ของสื่อสังคม
ออนไลน์ ในช่วงที่มีสถานการณ์การแพร่ระบาด COVID-19 ประชาชนจึงได้ร่วมกัน
“เป็นหูเป็นตา” ให้กับชุมชนและสังคม ทั้งการรายงานสถานการณ์ที่พบเห็น การแจ้ง
ข้อมูลข่าวสาร การเตือนภัย การให้ความรู้ รวมไปถึงการร้องขอความช่วยเหลือส�าหรับ
ตนเอง ครอบครัว และคนอื่น ๆ
อย่างไรก็ตาม ท่ามกลางบริบทยุคนี้ที่ผู้ส่งสารสามารถเป็น “ใครก็ได้”
ในสังคมที่ต้องการส่งต่อหรือน�าเสนอข้อมูลข่าวสารที่ตนไปเป็นพยานรู้เห็นหรือได้รับฟัง/
อ่านมา แต่การเผยแพร่ข้อมูลข่าวสารเหล่านั้นไม่ได้ผ่านการตรวจสอบความถูกต้อง
และกลั่นกรองจากกองบรรณาธิการหรือส่วนกลางก่อนการเผยแพร่ออกสู่สาธารณะ
ดังเช่นวิธีการที่ถือปฏิบัติเป็นมาตรฐานการท�างานของสื่อสารมวลชนมืออาชีพ
(ผู้ให้สัมภาษณ์คนที่ 2, สัมภาษณ์, 3 ธันวาคม 2564) จึงมีโอกาสท�าให้ข้อมูล
ข่าวสารเกี่ยวกับเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 ทั้งที่เป็นข้อเท็จจริง ข้อคิดเห็น ข่าวปลอม
ข่าวบิดเบือน ข่าวที่สร้างความสับสนต่าง ๆ ได้ถูกส่งต่อออกไปอย่างกว้างขวางและรวดเร็ว
ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผู้ส่งสารคนนั้นเป็นบรรดาผู้เชี่ยวชาญ
แพทย์ นักวิชาการ ผู้น�าทางความคิด หรือคนมีชื่อเสียง (Influencer) เนื่องจากบุคคล
เหล่านี้ล้วนเป็นผู้ที่มีความน่าเชื่อถือ อันเกิดจากหน้าที่การงาน ความรู้ความเชี่ยวชาญ
และคุณสมบัติส่วนตัว การเอื้อนเอ่ยวาจาใด ๆ ย่อมมี “ผู้ฟัง” เสมอ ทั้งที่เป็นความเห็น
ส่วนตัวก็ดี การส่งต่อข้อมูลข่าวสาร (Share) ที่ไปรับรู้/รับฟังมาก็ดี ขณะเดียวกัน
การมีผู้ติดตาม (Follower) จ�านวนมาก การส่งสารของบุคคลเหล่านี้จึงท�าให้ข้อมูล
ข่าวสารที่มีปัญหาสามารถเข้าถึงผู้คนจ�านวนมากในเวลาต่อมาได้