Page 512 - kpiebook67020
P. 512

511




           ในแนวทางการด�าเนินงานของรัฐบาลเพื่อขอความร่วมมือจากประชาชน (Collective

           action) เนื่องจากโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นเรื่องใหม่ที่มนุษยชาติต้องศึกษา
           เรียนรู้และท�าความเข้าใจไปพร้อมกัน บุคลากรในแวดวงสาธารณสุข นักการเมือง
           เจ้าหน้าที่ภาครัฐต่างก็เรียนรู้เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าวไปพร้อมกับประชาชนทั่วไป

           ในช่วงเริ่มต้นที่พบการแพร่ระบาดแต่ละประเทศจึงมีแนวทางการรับมือที่แตกต่างกัน

           ออกไป ส�าหรับประเทศไทย รัฐบาลอาจจะยังไม่ตระหนักถึงความร้ายแรงของ
           เชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ดังกล่าว เช่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุขมีความเห็นว่า
           โรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 เป็นโรคหวัดโรคหนึ่ง เป็นต้น ฉะนั้น ในช่วงแรก

           รัฐบาลไทยจึงตอบสนองต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา

           2019 และสื่อสารกับสาธารณชนประหนึ่งสถานการณ์น�้าท่วมที่เป็นภัยพิบัติที่เกิดขึ้น
           เป็นประจ�าทุกปี (ทวิดา กมลเวชช, สัมภาษณ์, 18 ธันวาคม 2564) กล่าวคือ เฝ้าระวัง
           และตอบโต้สถานการณ์ที่เกิดขึ้นแล้ว แต่มิได้คาดการณ์ว่าการแพร่ระบาดของ

           COVID-19 จะกลายเป็นวิกฤตด้านสาธารณสุข การด�าเนินงานและการสื่อสารของ

           ภาครัฐในช่วงเริ่มต้นการระบาดนี้จึงสร้างความหวั่นวิตกให้แก่ประชาชนเป็นอย่างมาก
           ว่ารัฐบาลไทยจะสามารถรับมือกับการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสสายพันธุ์ใหม่ที่ก�าลัง
           ทวีความรุนแรงในประเทศอื่นได้หรือไม่


                  แม้ว่าในเวลาต่อมารัฐบาลไทยได้ยกระดับการรับมือการระบาดของเชื้อไวรัส

           สายพันธุ์ใหม่ด้วยการจัดตั้งศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อ
           ไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) ขึ้นเพื่อท�าหน้าที่เป็นกลไกหลักของประเทศไทยในการบริหาร

           จัดการสถานการณ์การแพร่ระบาด (National emergency operations center)
           และการใช้พระราชก�าหนดการบริหารราชการในสถานการณ์ฉุกเฉิน พ.ศ. 2548

           เป็นเครื่องมือในการบริหารจัดการสถานการณ์เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพมากกว่าการใช้
           กลไกที่มีในยามปกติ อย่างไรก็ตาม การด�าเนินงานของ ศบค. และหน่วยงานภาครัฐ
   507   508   509   510   511   512   513   514   515   516   517