Page 46 - kpiebook67020
P. 46
45
5) มาตรการ ได้แก่ (1) การตรวจสอบองค์กรอิสระโดยใช้กลไกของรัฐสภา
หรือคณะกรรมาธิการวิสามัญที่สภาเป็นผู้แต่งตั้ง เนื่องจากเป็นหน่วยงานที่มีบทบาท
ส�าคัญในการพิจารณาคดีที่มีผลต่อประโยชน์สาธารณะ รวมถึงควรให้มีการรายงาน
ผลการด�าเนินงานประจ�าปีต่อรัฐสภาเพื่อให้เกิดการตรวจสอบถ่วงดุล (2) ปรับปรุง
แก้ไขพระราชบัญญัติการแข่งขันทางการค้า พ.ศ. 2560 ให้มีการก�าหนดกฎเกณฑ์
ในการพิจารณาคดีการแข่งขันทางการค้าที่ครอบคลุม ชัดเจนและเพียงพอเพื่อส่งเสริม
ให้เกิดการแข่งขันที่เป็นธรรม (3) ควรแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายให้มีบทบัญญัติที่เกี่ยวกับ
การคุ้มครองผู้บริโภคหรือองค์กรที่ฟ้องร้องผู้ประกอบธุรกิจที่ถูกร้องเรียน ทั้งด้าน
ค่าใช้จ่ายในการฟ้องร้องที่บริษัทที่ถูกฟ้องต้องรับผิดชอบ และด้านป้องกันการฟ้อง
หมิ่นประมาทของบริษัทที่ถูกร้องเรียน ควรให้เอกชนด้วยกันสามารถฟ้องร้อง
เรียกค่าเสียหายได้ (4) รัฐบาลควรมีนโยบายที่ส่งเสริมการแข่งขันที่เป็นธรรม
สร้างสภาพแวดล้อมของการแข่งขันที่เอื้อให้ผู้ประกอบการรายเล็กรายน้อยสามารถ
เข้ามาแข่งขันในตลาดได้มากขึ้น ลดกฎเกณฑ์ที่เป็นอุปสรรคในการด�าเนินธุรกิจ
(5) คณะกรรมการการแข่งขันทางการค้าและส�านักงานคณะกรรมการแข่งขันทางการค้า
ควรเปิดเผยข้อมูลเกี่ยวกับธุรกิจที่ถูกร้องเรียน และการด�าเนินงานสู่สาธารณะ เพื่อให้
ประชาชนสามารถตรวจสอบ ติดตามการด�าเนินงานและการท�าหน้าที่ของคณะกรรมการฯ
(6) รัฐควรเข้ามาแทรกแซงด้วยการเข้ามาควบคุมและก�ากับดูแลเชิงโครงสร้าง เช่น
ในกรณีที่มีการควบรวมธุรกิจและพบว่าก่อให้เกิดผลประทบต่อเศรษฐกิจโดยรวม
หรือเกิดการผูกขาด กฎหมายควรก�าหนดบทลงโทษโดยเน้นไปที่โทษทางแพ่ง
ให้ผู้ประกอบธุรกิจที่ได้รับการอนุญาตจากคณะกรรมการฯให้ควบรวมกิจการต้องจ่าย
ค่าเสียหายเป็นจ�านวน 3 เท่าของค่าเสียหายที่เกิดขึ้นให้กับผู้เสียหาย (7) การบังคับ
ใช้มาตรการทางการคลังในการแก้ปัญหาการแข่งขันที่ไม่เป็นธรรม (8) แก้ไขเพิ่มเติม
ข้อบัญญัติเกี่ยวกับการควบรวมธุรกิจ โดยก�าหนดให้ก่อนที่จะอนุญาตให้มีการควบรวม
