Page 31 - kpiebook67014
P. 31

ผู้สูงอายุ เด็กและเยาวชน คณะครู ผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เทศบาล ผู้ประกอบการ ผู้น าชุมชน ซึ่งต่างก็มีส่วนร่วมใน
              วาระหรือกิจกรรมที่แตกต่างกัน และเป็นไปตามบทบาทหน้าที่ของตน ตั้งแต่การระดมความคิดเห็น การร่วม

              วางแผนกิจกรรม การประสานงาน การเข้าร่วมกิจกรรมที่จัดขึ้น ขณะเดียวกันกิจกรรมของโครงการยังท าให้เกิด
              การจุดประกายความคิดสร้างสรรค์ คนต้องการต่อยอดจากทุนทางวัฒนธรรมที่เป็นสิ่งดี ๆ ที่มีอยู่ในชุมชน เพื่อ
              น าไปใช้ประโยชน์ต่อไป เช่น การฟื้นฟูอาหารพื้นบ้านขนมพื้นเมือง การสร้างรายได้ การตั้งชมรมในโรงเรียน การ
              จัดกิจกรรมในชุมชน เป็นต้น อีกทั้งกระบวนการของโครงการนี้ ยังท าให้ชาวเชียงคานที่เข้าร่วมกิจกรรมเกิด การ

              เรียนรู้และได้รับการพัฒนาทักษะ ไปโดยปริยาย โดยเฉพาะความกล้าคิด กล้าแสดงออก กล้าแสดงความคิดเห็น
              อย่างตรงไปตรงมา รวมไปถึงทักษะการคิดวิเคราะห์
                     นอกจากนี้ ความคิดเห็นอื่น ๆ เกี่ยวกับผลการด าเนินกิจกรรมของกลุ่มผู้เข้าร่วมทั้งสามกลุ่ม จะเห็นได้ว่า
              กลุ่มผู้บริหารและเจ้าหน้าที่เทศบาล ให้ความเห็นว่า การด าเนินกิจกรรมเพื่อพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมที่มีอยู่ในพื้นที่

              เชียงคาน นอกจากจะท าให้เกิดการมีส่วนร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ เป็นการต่อยอดทุนทางวัฒนธรรมที่มี และท าให้
              ชาวเชียงคานได้พัฒนาศักยภาพแล้ว ยังเป็นกิจกรรมที่สอดคล้องกับความต้องการของชุมชนอีกด้วย กล่าวคือ การ
              น าทุนทางวัฒนธรรมที่มีในชุมชนไปใช้เสริมสร้างความมั่นคงทางสังคม เป็นการด าเนินการที่ตรงกับความต้องการ
              ของชุมชนอย่างแท้จริง เนื่องจากผู้เข้าร่วมจากภาคส่วนต่าง ๆ ในชุมชนเข้าใจโจทย์ของกระบวนการและเข้าใจ

              ประเด็นปัญหาในพื้นที่เป็นอย่างดี จึงสามารถสะท้อนความคิดเห็นได้อย่างตรงประเด็น
                     อีกทั้งกระบวนการของวิทยากรจากสถาบันพระปกเกล้าที่สามารถกระตุ้นและปลุกเร้าคนให้กล้าคิดกล้า
              พูด ท าให้ผู้เข้าร่วมได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็นโดยถ้วนหน้า แสดงให้เห็นถึงวิถีประชาธิปไตยในชุมชน

              ของเชียงคานที่น่าภาคภูมิใจ “วิถีประชาธิปไตยในชุมชน คนได้มีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น คนกล้า
              แสดงออก เพื่อร่วมกันปกป้องสิ่งที่คนชุมชนมีความหวงแหน ทั้งที่โดยปกติคนเชียงคานจะไม่กล้าแสดงออกเช่นนี้”
                     แม้ว่าท าให้ชาวเชียงคานเห็นว่า จะสามารถน าเอาทุนทางวัฒนธรรมที่มีในชุมชนไปต่อยอดและสร้างรายได้
              ต่อไปได้อย่างไร อย่างไรก็ตาม มีผู้ให้ความเห็นบางท่านที่เห็นว่า การพัฒนาทุนทางวัฒนธรรมอาจจะยังไม่เห็นผลที่
              เป็นรูปธรรมชัดเจนในขณะนี้ แต่สิ่งที่เห็นเป็นรูปธรรมชัดเจนคือ การสร้างธรรมนูญเชียงคานผ่านกระบวนการ

              เข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่นที่ท าให้เกิดร่างข้อบัญญัติท้องถิ่นเกี่ยวกับการจัดระเบียบเมืองและการอนุรักษ์
              วัฒนธรรมประเพณีอันดีงามเอาไว้
                     ขณะที่ กลุ่มครูและผู้ปกครอง ให้ความเห็นว่า กิจกรรมของโครงการท าให้เกิดเวทีสนับสนุนการแสดงออก

              ของเด็กและเยาวชนอย่างสร้างสรรค์ เป็นการส่งเสริมความสามารถ ความคิดสร้างสรรค์ และเปิดโอกาสให้ได้ลอง
              ท าสิ่งใหม่ ๆ จึงท าให้ชุมชน ครู และผู้ปกครองได้เห็นความสามารถของเด็กและเยาวชนเชียงคาน “เป็นการจุด
              ประกายความคิดสร้างสรรค์ ท าให้เด็กได้กล้าแสดงออก ได้ลองท าสิ่งใหม่ ๆ เช่น การแต่งเพลง” ขณะเดียวกันก็ท า
              ให้เด็กและเยาวชนเกิดความภาคภูมิใจในตนเองและเห็นความสามารถของตนเอง เช่น การได้เป็นเจ้าของเพลงบท

              เพลงที่แต่งใหม่
                     อีกทั้งคุณค่าทางวัฒนธรรมที่มีอยู่แล้วในชุมชน แต่มีหน่วยงานภายนอกเข้ามาสนับสนุน แนะน า และ
              ส่งเสริมต่อยอดในการใช้ประโยชน์จากสิ่งเหล่านี้ จะเห็นได้จาก เพลงที่แต่งในการประกวด ท าให้คนในชุมชนได้
              จินตนาการตามสิ่งดี ๆ ที่มีในชุมชนและท าให้คนรู้จักชุมชนมากขึ้น รวมไปถึงการท าให้เด็กและเยาวชนได้ รู้จัก

              ชุมชนและสิ่งดี ๆ ที่มีในชุมชนของตนเองมากยิ่งขึ้น ผ่านบทเพลงที่ใช้ประกวดเหล่านั้น“...ไม่มีหน่วยงานไหนมา
              จัดกิจกรรมแบบนี้ให้เกิดทุนทางวัฒนธรรม ชุมชนเกิดรอยยิ้ม เกิดความร่าเริงเกิดสันทนาการในชุมชน สิ่งเหล่านี้
              เป็นเรื่องแปลกใหม่ ให้เด็กได้รู้รักถิ่นฐานบ้านเกิด รู้จักวัด รู้จักชุมชนมากขึ้นจากบทเพลง”









                                                          - 28 -
   26   27   28   29   30   31   32   33   34   35   36