Page 22 - kpiebook67011
P. 22
21
บทที่ 2
อะไรคือสาเหตุให้เกิด
ลัทธิเบ็ดเสร็จนิยม
บทนี้จะเป็นการฉายภาพให้เห็นถึงความเห็นของอาเรนดท์ต่อการปกครองโดยลัทธิหรือ
ระบอบการปกครองแบบเบ็ดเสร็จนิยม ว่ามีที่มา และมีลักษณะที่ส�าคัญอย่างไร และอะไร ท�าให้ระบอบ
การปกครองแบบเบ็ดเสร็จนิยมเหล่านี้ ยังสามารถตั้งมั่นต่อไปได้และมีพลัง ทั้งที่เป็นการปกครอง
ที่ไม่ได้ให้ประโยชน์อันสูงสุดแก่ผู้อยู่ใต้การปกครอง ซึ่งส่วนมากมักเป็นผลมาจากการปฏิวัติที่ไม่ส�าเร็จ
จากอุดมการณ์การปฏิวัติไปสู่งสังคมคอมมิวนิสม์ที่มีความเท่าเทียมในทางเศรษฐกิจ ไปสู่การกลับตาลปัตร
ไปเป็นฝ่ายขวาที่เน้นการใช้อ�านาจและอุดมการณ์ครอบง�าประชาชน หรือเป็นฝ่ายซ้ายกลางที่ใช่นโยบาย
แบบเสรีนิยมใหม่ อันเป็นแนวทางที่ตรงกันข้ามกับอุดมการณ์ของการปฏิวัติ เช่น การปฏิวัติรัสเซีย
20
การปฏิวัติวัฒนธรรมของจีน หรือการขึ้นมามีอ�านาจของพรรคที่มีลักษณะแนวทางแบบสังคมนิยมเป็น
อัตลักษณ์ เช่น พรรคฟาสซิสต์ในอิตาลี หรือนาซีในเยอรมัน เหล่านี้กลับเป็นบ่อเกิดของความเป็นต้นแบบ
ของความเป็น “เผด็จการ” ที่เป็นเบ็ดเสร็จนิยมทั้งสิ้น ซึ่งเป็นสิ่งที่ขัดขวางการเกิดขึ้นของประชาธิปไตย
แน่นอนว่า มีการถกเถียงว่าประชาธิปไตยจ�าเป็นต้องอยู่ตรงกันข้ามกับคอมมิวนิสม์หรือสังคมนิยม
หรือไม่ ในฐานะที่คอมมิวนิสม์และสังคมนิยมนั้นเป็นอุดมการณ์และลัทธิทางเศรษฐศาสตร์การเมือง
คือ มีมิติในเชิงเศรษฐกิจเข้ามาเกี่ยวข้องและเป็นปัจจัยในการขับเคลื่อนการเมือง แต่ประชาธิปไตยนั้น
เป็นกรอบคิดและระบอบการปกครองที่เน้นหนักไปในปริมณฑลของการเมืองเป็นหลัก แต่แม้ว่าสังคมนิยม
หรือคอมมิวนิสม์จะเป็นอุดมการณ์ในเชิงเศรษฐศาสตร์ แต่ก็สามารถแสดงมิติทางการเมืองที่เป็น
ประชาธิปไตยได้ไม่น้อย เช่น การกระจายความมั่งคั่งให้เกิดความเท่าเทียมและยุติธรรม หรือการอยาก
ให้มีความเท่าเทียมทางเศรษฐกิจ แม้ว่าสังคมคอมมิวนิสม์ในฝันจะยากที่จะจินตนาการ แต่นั่นก็คือ
การท�าให้คนเท่ากันแบบที่หลักการของประชาธิปไตยอยากให้เป็น เช่น การมีสิทธิ์ในการออกเสียงที่เท่ากัน
ของประชาชน น�าไปสู่แนวคิดแบบคนเท่ากัน เพราะประชาธิปไตยคือการปกครองโดยประชาชน หรือ
demos ในภาษากรีก ประชาธิปไตยจึงเป็นการปกครองที่ต้องการให้คนเท่ากัน ในแง่ที่ทุกคนคือประชาชน
20 Boris Kagarlitsky, ‘The Unfinished Revolution’, New Left Review, no. I/226 (1 December 1997): 155–59.