Page 32 - kpiebook67002
P. 32
ของประเทศ ต่อมามีการพัฒนาเทคโนโลยีด้านการสื่อสารของไทยอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง มีส่วนส าคัญที่
ผลักดันให้การสื่อสารระหว่างสถาบันการเมือง กับประชาชนขยายและใกล้ชิดมากขึ้น การสื่อสารในประเทศ
ไทยมีความเป็นมาตั้งแต่เริ่มมีการหล่อตัวพิมพ์ภาษาไทย ตั้งแต่พ.ศ. 2362 โดยคณะมิชชันนารีได้เริ่มการพิมพ์
ในไทยตั้งแต่สมัยรัชกาลที่ 3 เพื่อพิมพ์หนังสือสอนศาสนา โดยในระยะเริ่มแรกนี้ประเทศมหาอ านาจตะวันตก
เข้ามาเป็นผู้ผูกขาดทั้งส านักพิมพ์ และโรงพิมพ์ ในระยะนี้อิทธิพลของสื่อตะวันตกมีมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะ
หมอบลัดเลย์เป็นบุคคลส าคัญมากในการขับเคลื่อนการสื่อสารในไทย ทั้งการเป็นผู้พิมพ์โฆษณา เป็นเจ้าของ
และเป็นบรรณาธิการ มีบทวิพากษ์วิจารณ์เจ้านายและเสนาบดีของไทยออกมาอยู่เสมอ จนท าให้เกิดการ
แทรกแซงจากรัฐ ตัวอย่างสื่อสิ่งพิมพ์ที่ออกมาในช่วงนั้น เช่น การออกพระราชก าหนดลักษณะหมิ่นประมาทว่า
ด้วยการพูดหรือการเขียนถ้อยค าเท็จออกโฆษณาการ พ.ศ. 2442 ส่วนหนึ่งเพื่อควบคุมการโฆษณาเผยแพร่
หนังสือพิมพ์ จนน าไปสู่การสั่งปิดหนังสือรายปักษ์ ใน พ.ศ. 2449 ที่มีเนื้อหาเรียกร้องสิทธิเสรีภาพการปกครอง
ที่ทันสมัย ยุบเลิกอภิสิทธิ์ต่าง ๆ จะเห็นได้ว่าสื่อในช่วงแรกของการก่อก าเนิดถูกควบคุมจากรัฐอย่างเข้มงวด
2. ยุคการเปลี่ยนแปลงการปกครองกับสื่อวิทยุกระจายเสียง
ในพ.ศ. 2475 คณะราษฎรได้ก่อการเปลี่ยนแปลงการปกครอง ส่งผลกระทบกับการสื่อในวงกว้าง
รัฐได้มีการประกาศเซ็นเซอร์เนื้อหาบางส่วนในหนังสือพิมพ์ชั่วคราว และมีการสั่งปิดหนังสือพิมพ์ประชาชาติ
ในวันที่ 16 มิถุนายน พ.ศ. 2471 ที่ได้ลงบทความเรื่อง “รัฐธรรมนูญของเรา” สมัยจอมพล ป.พิบูลสงคราม
พ.ศ. 2481 ประเทศเข้าสู่แนวนโยบายชาตินิยม ทั้งทางการเมือง เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม มีการออก
พระราชบัญญัติการพิมพ์ พ.ศ. 2484 และออกกฎกระทรวงมหาดไทย 2485 ท าให้การออกหนังสือพิมพ์
ยากยิ่งขึ้นและต้องมีเงินทุนสูง และในช่วงเวลานี้มีนักเขียนนักหนังสือพิมพ์ถูกจับกุมหลายคน เช่น
กุหลาบ สายประดิษฐ์ เป็นต้น
แม้ว่าสถานการณ์การเมืองในประเทศจะไม่มีเสถียรภาพ แต่บทบาทด้านสื่อก าลังเพิ่มขึ้นโดยเฉพาะสื่อ
วิทยุกระจายเสียง ได้เริ่มมีบทบาทส าคัญมากขึ้นใน พ.ศ. 2475 เพื่อเป็นกระบอกเสียงให้รัฐในการเผยแพร่
ข่าวสารสู่ประชาชน รัฐบาลยุคนั้นมองเห็นความส าคัญของสื่อวิทยุกระจายเสียงจึงอนุญาตให้หน่วยงานต่าง ๆ
ของรัฐสามารถจัดตั้งวิทยุกระจายเสียงเฉพาะองค์กรได้ จึงน าไปสู่การจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาซึ่ง
เกิดขึ้นภายใต้แนวคิดที่ต้องการเผยแพร่ข้อมูลความรู้ด้านการเมืองการปกครองในระบอบประชาธิปไตยไปสู่
ประชาชน และส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชนผ่านทางสื่อนิติบัญญัติในรูปแบบสถานีวิทยุกระจายเสียง
โดยสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาเป็นหน่วยงานในสังกัดส านักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรโดยเป็นสถานี
วิทยุกระจายเสียงเพียงสถานีเดียวของฝ่ายนิติบัญญัติ ออกอากาศครั้งแรกเมื่อวันที่ 18 เมษายน พ.ศ. 2537
ซึ่งมีวัตถุประสงค์ในการก่อตั้งเพื่อเป็นสื่อกลางให้ความรู้ ความเข้าใจเรื่องการเมืองการปกครองในระบอบ
ประชาธิปไตยภายใต้ระบบรัฐสภาให้แก่ประชาชน โดยมีภารกิจหลักในการถ่ายทอดเสียงการประชุมรัฐสภา
การประชุมสภาผู้แทนราษฎร และการประชุมวุฒิสภา อีกทั้งมีหน้าที่ในการเผยแพร่ข่าวสารการด าเนินงานของ
รัฐสภา ระยะแรกของการจัดตั้งสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาออกอากาศเฉพาะกรุงเทพมหานครและ
ปริมณฑล จนกระทั่งในปีงบประมาณ 2538 มีความคิดริเริ่มที่จะกระจายความรู้เรื่องการเมืองการปกครองใน
31