Page 35 - kpiebook67002
P. 35
ที่โทรทัศน์ได้กลายเป็นสื่อที่มีอิทธิพลต่อปัจเจกบุคคลค่อนข้างสูง และเป็นสื่อที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้
อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพสูงสุด โทรทัศน์จึงถือได้ว่าเป็นสื่อที่กลุ่มผู้ชมนิยมมากที่สุดในปัจจุบัน อีกทั้งยัง
มีอิทธิพลสูงต่อการเปลี่ยนแปลงสิ่งต่าง ๆ ในสังคม การใช้สื่อโทรทัศน์เป็นเครื่องมือในการให้ข้อมูลข่าวสาร
ความรู้ การประชาสัมพันธ์ในด้านต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย จึงมีความส าคัญอย่างยิ่งในการเสริมสร้าง
ประชาธิปไตยผ่านทางช่องทางดังกล่าว เนื่องจากประชาชนทุกกลุ่มสามารถเข้าถึงได้ การมีส่วนร่วมของ
ประชาชนนับว่ามีความส าคัญและมีความจ าเป็นอย่างยิ่งต่อการปกครองในระบอบประชาธิปไตย เพราะเป็น
กลไกที่ชี้ให้เห็นถึงระดับของการพัฒนาประชาธิปไตยของสังคมนั้น ๆ โดยถ้าประเทศใดเปิดโอกาสให้ประชาชน
มีส่วนร่วมทางการเมืองในระดับสูง ความเป็นประชาธิปไตยของประเทศนั้นก็จะมีการพัฒนามากขึ้นเช่นกัน
สอดคล้องกับการปฏิรูปสื่อที่มักมาพร้อมกับการปฏิรูปการเมือง
เหตุการณ์ส าคัญที่เกิดขึ้นของไทยคือ การปฏิรูปการเมืองหลังเหตุการณ์พฤกษาทมิฬ ได้ท าให้เกิดการ
ปฏิรูปสื่อโดยมีสาระส าคัญในเรื่องสิทธิเสรีภาพต่อการน าเสนอข้อมูลข่าวสารของสื่อมวลชนรวมทั้งประชาชน
ได้มีการจัดท าข้อเสนอในการปฏิรูปสื่อเพื่อรับรองสิทธิด้านข้อมูลข่าวสาร และสิทธิด้านการสื่อสารจาก 3 กลุ่ม
หลักได้แก่ ข้อเสนอจากคณะอนุกรรมการจัดท าแผนระยะยาวคณะกรรมการปรับปรุงสื่อของรัฐ ข้อเสนอของ
องค์กรพัฒนาเอกชน 3 องค์กรคือ มูลนิธิเอเชีย มูลนิธิสื่อสร้างสรรค์ และสถาบันนโยบายศึกษา และข้อเสนอ
จากภาครัฐและองค์กรประชาธิปไตย เพื่อให้เกิดการจัดสรรทรัพยากรคลื่นอย่างเสมอภาคระหว่างรัฐ เอกชน
และประชาชน
ด้วยเหตุนี้จึงท าให้การปฏิรูปสื่อในไทยเกิดขึ้นอีกครั้งในพ.ศ. 2540 ภายใต้รัฐธรรมนูญฉบับพ.ศ. 2540
37
ที่มีบทบัญญัติว่าด้วยสิทธิเสรีภาพและการคุ้มครองการท างานของสื่อมวลชน ทั้งนี้การปฏิรูปสื่อในเวลา
ดังกล่าวถือเป็นวาทกรรมใหม่โดยยึดหลักสิทธิเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็น ซึ่งขัดแย้งกับวาทกรรมหลัก
ของรัฐในขณะนั้นที่มองว่าสื่อมีรัฐเป็นเจ้าของหลัก จึงมีการต่อสู้มาตลอด จนน าไปสู่การออกกฎหมายเกี่ยวกับ
สื่อ พร้อมกันกระแสของสื่อสมัยใหม่ที่อาศัยอินเตอร์เน็ตได้เริ่มเข้ามามีบทบาท ประเทศไทยเริ่มใช้งาน
อินเตอร์เน็ตครั้งแรกใน พ.ศ. 2530 เป็นการใช้บริการในรูปแบบจดหมายอิเล็กทรอนิกส์ จนปัจจุบันนี้
อินเทอร์เน็ตได้กลายมาเป็นระบบพื้นฐานด้านข้อมูลที่ใช้กันแพร่หลายผ่านเครื่องมือต่าง ๆ เช่น คอมพิวเตอร์
โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์การสื่อสารต่าง ๆ ที่อาศัยอินเตอร์เน็ต จนกลายเป็นสิ่งที่มีอิทธิพลต่อมนุษย์ในยุค
โลกาภิวัตน์อย่างยิ่ง การสื่อสารผ่านสื่อสังคมออนไลน์ได้ขยายวงกว้างจากปัจเจกสู่ปัจเจก เป็นจากหน่วยงานสู่
ประชาชน จะเห็นได้ว่าหน่วยงานของรัฐหันมาใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการเผยแพร่ข่าวสาร กิจกรรม และสร้าง
การประชาสัมพันธ์กับประชาชนในวงกว้างมากขึ้น
เมื่อย้อนกลับมาพิจารณาถึงรัฐสภาในฐานะองค์กรหนึ่งที่เป็นตัวแทนของอ านาจอธิปไตย ได้ให้
ความส าคัญกับการเผยแพร่ข้อมูลแก่ประชาชนมากขึ้น และหากพิจารณาจากอ านาจหน้าที่หลักที่ส าคัญของ
รัฐสภาทั้ง 3 ประการ คือ อ านาจหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ อ านาจหน้าที่ในการตรวจสอบการบริหารราชการ
37 ณัฐพร บูรภักดิ์, บทบาทของสถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภาภายหลังการปฏิรูปสื่อ, น. 32.
34