Page 36 - kpiebook67002
P. 36
แผ่นดิน และอ านาจหน้าที่ในการเป็นตัวแทนประชาชน ดังนั้นจ าเป็นอย่างที่ประชาชนควรมีโอกาสในการได้รับ
ข้อมูลข่าวสารของรัฐสภาอย่างชัดเจน ปัจจุบันช่องทางการสื่อสารระหว่างประชาชนและรัฐสภา มีทั้งวิทยุ
รัฐสภา โทรทัศน์รัฐสภา และสื่อสังคมออนไลน์ พบว่ารัฐสภาส่วนใหญ่ทั่วโลกใช้แอปพลิเคชันออนไลน์
(Application online) เพื่อแจ้งข่าวประชาสัมพันธ์ด้านนิติบัญญัติ การสร้างความรู้ความเข้าใจในระบบงานนิติ
บัญญัติ และการส่งเสริมการมีส่วนร่วมของประชาชน ซึ่งเทคโนโลยีดิจิทัลได้เข้ามามีบทบาทหลักและเป็นสิ่งที่
สามารถตอบโจทย์การสื่อสารในปัจจุบันได้อย่างดีที่สุด ส าหรับสังคมไทยนับตั้งแต่พ.ศ. 2559 สื่อสังคมออนไลน์
ได้เริ่มเข้ามามีบทบาทแทนที่การสื่อสารในช่องทางวิทยุและโทรทัศน์ที่เป็นการกระจายภาพเสียงเพิ่มมากขึ้น
จนกระทั่งในพ.ศ. 2561 สื่อสังคมออนไลน์ได้กลายเป็นช่องทางสื่อสารหลักที่สามารถเข้าถึงประชาชนได้
มากกว่าสื่อวิทยุและโทรทัศน์ และยังพบว่ารัฐสภาต่างประเทศหลายประเทศได้ยุติช่องทางการสื่อสารผ่าน
สถานีวิทยุกระจายเสียง และมาใช้สื่อสังคมออนไลน์มากขึ้น ไม่ว่าจะเป็น Facebook, Twitter และ
Instagram เป็นต้น โดยเฉพาะ Facebook และ Twitter ได้กลายเป็นช่องทางที่ได้รับความนิยมมากที่สุดใน
รัฐสภาต่างประเทศ รองลงมาคือ สื่อยูทูบ (YouTube) เป็นการสื่อสารผ่านการเผยแพร่วีดิทัศน์ออนไลน์ โดยได้
เปลี่ยนรูปแบบรายการจากโทรทัศน์มาสู่สถานีโทรทัศน์รัฐสภาในรูปแบบของช่อง YouTube ซึ่งเป็นช่องทางที่
ได้รับความนิยมมากขึ้นเป็นล าดับ ซึ่งรัฐสภาได้ใช้ช่องทางนี้ในการสื่อสารกับประชาชนและสามารถเข้าถึงความ
ต้องการของประชาชนได้ทันท่วงที
ส าหรับรัฐสภาไทยเองก็ได้มีการพัฒนาช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ใหม่ๆ ในการสื่อสารกับประชาชนเพิ่ม
มากขึ้น โดยเฉพาะเว็บไซต์ของรัฐสภาที่ได้รวบรวมข้อมูลต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง การประชุมสภา ร่างกฎหมาย เป็น
ต้น แต่อย่างไรก็ตามรัฐสภาไทยก็ยังคงช่องทางการสื่อสารผ่านสถานีวิทยุกระจายเสียงและโทรทัศน์รัฐสภาไว้
เพื่อเป็นช่องทางหลักในการสร้างการสื่อสารกับประชาชนทั่วประเทศ ปัจจัยส าคัญที่จะส่งเสริมให้การสื่อสาร
ระหว่างรัฐสภากับประชาชนคือ การพัฒนาช่องทางการสื่อสารให้ทันสมัย ตอบโจทย์ความต้องการของ
ประชาชน และเป็นการสื่อสารสองทางที่สนับสนุนให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมในการแสดงความคิดเห็น
ผ่านช่องทางต่าง ๆ โดยเฉพาะช่องทางแพลตฟอร์มดิจิทัลและการถ่ายทอดสดการประชุมของคณะกรรมาธิการ
ต่าง ๆ รวมทั้งการเปิดแพลตฟอร์มเพื่อให้ภาคเอกชนสามารถน าไปพัฒนาต่อยอดได้
ดังนั้นจะเห็นได้ว่า ช่องทางการสื่อสารของรัฐสภาในปัจจุบันนี้ มุ่งเน้นการส่งเสริมเผยแพร่บทบาท
ภารกิจของสมาชิกรัฐสภา และกิจกรรมต่าง ๆ ของรัฐสภาเพื่อให้ประชาชนรับรู้พร้อมกับการสร้างความรู้ความ
เข้าใจ อีกทั้งให้ประชาชนมีส่วนร่วมทางการเมือง รัฐสภาจึงได้เปิดโอกาสให้กับประชาชนในการรับรู้ข้อมูล
ข่าวสารของรัฐสภาได้อย่างถูกต้องชัดเจน ผ่านช่องทางต่าง ๆ ได้แก่ สถานีวิทยุกระจายเสียงรัฐสภา
สถานีโทรทัศน์รัฐสภา แพลตฟอร์มออนไลน์และเว็บไซต์ของรัฐสภา www.parliament.go.th โดยทั้ง
3 ช่องทางมีภารกิจในการส่งเสริมความรู้ ความเข้าใจในการปกครองระบอบประชาธิปไตยและบทบาทภารกิจ
ของฝ่ายนิติบัญญัติ ตลอดจนการเปิดโอกาสให้ประชาชนได้เข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองผ่านทั้ง 3 ช่องทาง
แต่อย่างไรก็ตามพบว่า ช่องทางการสื่อสารเหล่านั้นยังไม่เพียงพอต่อการส่งเสริมและเข้าถึงประชาชนได้อย่างมี
ประสิทธิภาพ เพราะส่วนใหญ่เป็นการสื่อสารทางเดียว อีกทั้งความนิยมของประชาชนในการรับสื่อจากช่อง
35