Page 29 - kpiebook67002
P. 29
โดยเฉพาะสื่อสังคมออนไลน์ ซึ่งรูปแบบของสื่อสังคมออนไลน์ เป็นทั้งรูปแบบของสิ่งพิมพ์ออนไลน์หรือ
การแสดงทั้งภาพและเสียงในรูปแบบออนไลน์ และยังอนุญาตให้ผู้รับสารสามารถเข้าร่วมในการสนทนา
แลกเปลี่ยนความคิดเห็นได้เกี่ยวกับเนื้อหาต่าง ๆ ที่แสดงบนเว็บไซต์ โดยปัจจุบันนี้สื่อสังคมออนไลน์ถูก
ออกแบบในหลากหลายแพลตฟอร์ม เช่น เว็บบล็อก การประชุมออนไลน์ โซเซียลบล็อก ไมโครบล็อก wikis
หรือพอดคาสต์ ในปี 1998 เริ่มมีการปรึกษาหารือออนไลน์ในรัฐสภาต่าง ๆ หลายประเทศทั่วโลกและได้มีการ
รวมค าแนะน าไว้อย่างเป็นระบบบนเว็บไซต์ Tell Parliament หรือทางเว็บไซต์ eConsultations ของรัฐสภา
ซึ่งถือว่าเป็นช่องทางหนึ่งที่เปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองมากขึ้น
งานศึกษาเกี่ยวกับการใช้สื่อสังคมออนไลน์ของรัฐสภา เช่น งานของ Andy Williamson เรื่อง Social
26
Media Guidelines for Parliaments ที่กล่าวว่า ตั้งแต่ปี 2012 เป็นต้นมา หนึ่งในสามของรัฐสภาทั่วโลกมี
การใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการสื่อสารกับประชาชน สื่อสังคมออนไลน์ถูกใช้เป็นเครื่องมือในการสร้างและ
แบ่งปันข้อมูล และกลายเป็นช่องทางที่เปิดโอกาสในการเข้าถึงข้อมูลของประชาชนต่อกระบวนการร่าง
กฎหมาย ที่ส าคัญเป็นช่องทางการสื่อสารในรูปแบบใหม่ที่เข้าถึงได้ง่าย รวดเร็ว และเป็นสาธารณะ จากงาน
ศึกษาพบว่าสื่อสังคมออนไลน์ท าให้รัฐสภา สมาชิกรัฐสภาและประชาชนสามารถติดต่อสื่อสารกันได้ง่ายมากขึ้น
เป็นการส่งเสริมประชาธิปไตยแบบมีส่วนร่วม นอกจากนี้สื่อสังคมออนไลน์เองก็ยังมีหลากหลายแพลตฟอร์มที่
ท าให้การเข้าถึงรัฐสภาท าได้ง่ายและสะดวกมากขึ้น สอดคล้องกับงานศึกษาเรื่อง Political Communication
27
and Electronic Democracy : American Exceptionalism or Global Trend? ของ Thomas Zittel ได้
อธิบายไว้ว่า แนวคิดเรื่องประชาธิปไตยแบบอิเล็กทรอนิกส์เป็นแนวคิดที่ได้รับความนิยมมากขึ้นตั้งแต่ทศวรรษ
ที่ 1970 มีการใช้สื่อดิจิตอล เช่น โทรศัพท์ คอมพิวเตอร์ และอินเตอร์เน็ตมาเป็นเครื่องมือหลักในการพัฒนา
และสร้างการมีส่วนร่วมในวิถีทางประชาธิปไตย ช่องทางการสื่อสารแบบเดิม ไม่ว่าจะเป็นวิทยุ และโทรทัศน์
เป็นช่องทางการสื่อสารที่มีข้อจ ากัด ทั้งกลุ่มผู้ฟังและการแลกเปลี่ยนสื่อสาร แต่เมื่ออินเตอร์เน็ตเข้ามาท าให้
เกิดการขยายช่องทางการสื่อสารได้กว้างมากขึ้น ท าให้เกิดรูปแบบการสื่อสารแบบใหม่ มีผู้ส่งเพียงผู้เดียว แต่
สามารถส่งไปยังผู้รับจ านวนมากได้ในเวลาเดียวกัน ทุกคนสามารถเข้าร่วมพูดคุยถกเถียงในประเด็นเดียวกันได้
โดยพบว่ามีรัฐสภาหลายประเทศทั่วโลกที่หันมาใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นช่องทางการสื่อสารหลักระหว่างรัฐสภา
และประชาชน เพื่ออ านวยความสะดวกต่อประชาชนในการเข้าถึงข้อมูล ท าให้ประชาชนมีส่วนร่วมในกิจกรรม
ภายในรัฐสภามากขึ้น
จากการทบทวนวรรณกรรมเกี่ยวกับช่องทางการสื่อสารของรัฐสภาแล้วนั้น พบว่ายังมีงานศึกษา
จ านวนหนึ่งที่อธิบายเกี่ยวกับความสัมพันธ์ระหว่างสื่อกับรัฐสภา อย่างเช่นงานศึกษาของ Nicolas Bouchet
Andy Williamson, Social Media Guidelines for Parliaments (Genera : Inter-Parliamentary Union, 2013).
26
27 Thomas Zittel, “Political Communication and Electronic Democracy: American Exceptionalism or Global
Trend?,” Comparing Political Communication: Theories, cases and challenges, Edited by Frank Esser and
Barbara Pfetsch (New York : Cambridge University Press, 2004), pp. 231-250.
28