Page 284 - kpiebook66030
P. 284

สรุปการประชุมวิชาการ
     2   สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 24
       ความท้าทายของความมั่นคงใหม่กับประชาธิปไตย


           เอกชนไปสู่ประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม เช่น ประธานาธิบดีโอบามาต้องการให้สหรัฐฯ เป็นผู้นำ
           ในการจัดการสิ่งแวดล้อมโลก จึงดำเนินนโยบายต่างประเทศเพื่อลดการปล่อยมลพิษ เป็นผู้นำ
           ในการลงนามในความตกลงปารีส (Paris Agreement) ด้วยคำมั่นที่จะลดการปล่อย
           ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์จากปี 2005 ให้ลงร้อยละ 26-28 ภายในปี 2025 การเตรียมพร้อม

           รับผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ และการขับเคลื่อนผ่านการเจรจาระหว่าง
           ประเทศ

                   รัฐบาลจีนเน้นอำนาจ “แข็ง” ที่รับนโยบาบมาจากพรรคคอมมิวนิสต์ในการออกคำสั่ง
           การขึ้นมาดำรงตำแหน่งเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์และประธานาธิบดีสี จิ้นผิงในปี 2013

           ได้กำหนดให้การจัดการกับปัญหามลพิษเป็นหนึ่งใน “การต่อสู้ที่ยากลำบากสามครั้ง” ของจีน
           ควบคู่ไปกับความยากจนและเสถียรภาพทางการเงิน ในรายงานการประชุมพรรคคอมมิวนิสต์
           จีนครั้งที่ 19 สี จิ้นผิงได้ยอมรับว่าถ่านหินและยานพาหนะเป็นแหล่งสำคัญของมลพิษทาง

           อากาศ จึงวางแผนปรับปรุงโครงสร้างเศรษฐกิจขนานใหญ่ สั่งปิดโรงงานที่ปล่อยควันมลพิษ
           เกินมาตรฐานกว่า 2,500 แห่ง สร้างระบบพลังงานที่ปลอดภัย และกระตุ้นให้ประชาชน
           ใช้ยานพาหนะพลังงานไฟฟ้า ในปี 2014 รัฐบาลจีนนำโดยนายกรัฐมนตรีหลี่ เค่อเฉียง
           ได้ประกาศ “สงครามต่อต้านมลพิษ” (War against pollution) ในพื้นที่ที่มีมลพิษมากที่สุด
           ได้แก่ ปักกิ่ง–เทียนจิน–เหอเป่ย (Jing-Jin-Ji Region) สามเหลี่ยมปากแม่น้ำเพิร์ล และ

           สามเหลี่ยมปากแม่น้ำแยงซี (Hao, 2018; Tomula, 2020) พร้อมกันนั้น (Guo Jian &
           นรชาติ วัง, 2561; L. Zhang, 2018)

                 2.3 การปรับโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐ


                   การก่อรูปนโยบายผ่านสภาคคองเกรส สามารถออกกฎหมายในการรับมือกับมลพิษ
           ทางอากาศ รัฐบาลภายใต้ประธานาธิบดีริชาร์ด นิกสัน (Richard Nixon) ลงนามในนโยบาย
           สิ่งแวดล้อมแห่งชาติฉบับแรกของสหรัฐฯ (U.S. National Environmental Policy Act: NEPA)
           ในปี 1970 NEPA มีบทบาทต่อนโยบายสิ่งแวดล้อมของสหรัฐฯ เป็นอย่างมาก ก่อนที่จะพัฒนา

           มาเป็นสำนักงานปกป้องสิ่งแวดล้อม (Environmental Protection Agency: EPA) ในปี 1971
           ซึ่งขึ้นตรงต่อฝ่ายบริหาร เป็นจุดศูนย์กลางประสานความร่วมมือระหว่างรัฐบาลกลาง มลรัฐ
           รัฐบาลท้องถิ่น และภาคธุรกิจ มีหน้าที่หลักในการออกระเบียบ วางแผนทบทวนแผน
           ตรวจสอบ กำหนดมาตรฐาน ป้องกันและควบคุมมลพิษทางอากาศ หากพบผู้ละเมิด EPA

           สามารถออกคำเตือน ออกคำสั่งให้แก้ไข รวมไปถึงมีอำนาจในการสั่งลงโทษกิจการที่ฝ่าฝืนรัฐ
    บทความที่ผ่านการพิจารณา   ประกาศใช้แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติระยะห้าปี (Five-Year Plan) ฉบับที่ 13
           บัญญัติ ปรับ และฟ้องศาลได้

                   ประเทศจีนเริ่มจริงจังกับการจัดการมลพิษทางอากาศเมื่อพรรคคอมมิวนิสต์จีน



           (ปี ค.ศ. 2016–2020) เพื่อปรับปรุงสภาพแวดล้อมนิเวศวิทยาไปในทางที่ดีขึ้นในทุกด้านภายใน
           20 ปี (CCP, 2016) และปรับโครงสร้างหน่วยงานภาครัฐในปี 2017 เพื่อประสิทธิภาพ
   279   280   281   282   283   284   285   286   287   288   289