Page 193 - kpiebook66030
P. 193

สรุปการประชุมวิชาการ   1
                                                                               สถาบันพระปกเกล้า ครั้งที่ 24
                                                                                ความท้าทายของความมั่นคงใหม่กับประชาธิปไตย


             เป็นเรื่องที่สำคัญรวมทั้งหาวิธีการลดความขัดแย้งคือใช้สิ่งที่เรียกว่า framework วิธีวิทยาหาทาง
             เลือกในอนาคต โดยการสร้างเวทีเสวนาร่วมกันทั้งระดับองค์กร ชุมชนกลุ่มประชารัฐ
             กลุ่มประชาสังคม กลุ่มธุรกิจ ภาครัฐ เพื่อบริหารจัดการ มีการวางแผนร่วมกัน เกิดการสื่อสาร
             ที่มีเป้าหมายรวมกันบนฐานข้อมูลชุดเดียวกัน แล้วก็ศึกษาปัจจัยอนาคตที่มีผลกระทบสูงและ

             ก็จะมีโอกาสเกิดสูงอันนี้คือแนวโน้ม (trend) แล้วจากนั้นก็ไปดูปัจจัยในอนาคตที่จะมี
             ผลกระทบสูง มีความไม่แน่นอนสูง ทางออกเป็นอย่างไร รวมทั้งข้อเสนอเชิงนโยบายว่า
             มีความจำเป็นต้องสานเสวนาประชาสังคมกันอย่างไร มีความจำเป็นเรื่องของการพัฒนาดิจิตอล

             มีเรื่องการกระจายอำนาจแบบเครือข่าย มีการรื้อสร้างประเทศไทย เป็นต้น

                    ขณะนี้ประเทศไทยมีความพยายามที่จะกระจายอำนาจในด้านการจัดการน้ำ เช่น
             มีการออกกฎหมายใหม่ ตั้งคณะกรรมการลุ่มน้ำขึ้นแต่ยังมีอุปสรรคนั่นคือระบบการบริหาร
             จัดการระหว่างหน่วยงานยังไม่พร้อมต้องปรับเปลี่ยนกฎหมาย วิธีการ งบประมาณให้สอดคล้อง

             กันเนื่องจากขาดเอกภาพ ต้องยกเครื่องระบบบริหารราชการครั้งใหญ่ แก้ไขกฎหมาย
             ที่เป็นอุปสรรคต่อการทำธุรกิจ มีความกล้าหาญทางการเมือง ประชาชนจะต้องสนับสนุน
             พรรคการเมืองที่ต้องการแก้กฎหมายและนโยบายแข่งขันทางการค้า ด้านการพัฒนา
             อุตสาหกรรม มีความจำเป็นในการ reskills upskill แรงงานของประเทศไทยมิใช่พึ่งแต่แรงงาน
             ต่างชาติ ติดบ่วงกับดักของการที่ผลิตสินค้ามูลค่าต่ำอยู่ตลอดเวลา ต้องทบทวนเรื่อง

             ความเท่าเทียมของแรงจูงใจ ซึ่ง EEC ให้ยาวกว่าแรงจูงใจด้านภาษี ยาวกว่านอกเขต EEC
             มีปัญหาเรื่องทางเลือกอุตสาหกรรมในอนาคต ประเทศไทยต้องกลับมาทบทวนว่า
             ภาคการเกษตรต้องปรับนโยบายการอุดหนุนให้มีเงื่อนไข เช่น มีงานวิจัยกลุ่มเกษตรกร

             ที่จังหวัดอุบลราชธานีกับจังหวัดสุพรรณบุรีแล้วได้ผลออกมาตรงกันว่า ถ้ามีการอุดหนุนแบบ
             ไม่มีเงื่อนไขเกษตรกรไม่มีแรงจูงใจจะใช้เทคโนโลยีใหม่ เป็นต้น นอกจากนี้ ประเทศไทยจำเป็น
             ต้องปฏิรูปยกเครื่อง วิจัยภาพลักษณ์ขนานใหญ่ว่ามีจุดอ่อนอะไร ปรับระบบการส่งเสริมเกษตร
             จากที่รัฐดำเนินการ คิด ส่งเสริม ประเมินผลเองเปลี่ยนเป็นรัฐให้เงินอุดหนุนโครงการและ
             ประเมิน กลุ่มเกษตรกรร่วมมือกับธุรกิจหรือกลุ่มประชาสังคมเสนอโครงการขึ้นมาให้รัฐ

             พิจารณา และสถาบันอุดมศึกษาหรือมหาวิทยาลัยมีส่วนสำคัญในการถ่ายทอดฝึกอบรม ต้องมี
             การลงทุนและใช้เทคโนโลยีทางด้านเกษตรสมัยใหม่ครั้งใหญ่ ลงทุนเรื่องการพัฒนาคนไม่ใช่
             เฉพาะภาคการเกษตร ภาคอุตสาหกรรมก็ต้องทำทั้งสองเรื่องนี้ไปพร้อมกัน


                   บทสรุป การปฏิรูปโครงสร้างในภาพรวมของประเทศต้องมีการปรับเปลี่ยนกฎ กติกา
             สถาบันและนโยบายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งล้วนเป็นงานท้าทายครั้งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์เศรษฐกิจ
             สมัยใหม่ของประเทศไทย ต้องอาศัยความกล้าหาญทางการเมือง เช่น การทำกิโยตินทาง
             กฎหมาย การเปลี่ยนนโยบายการอุดหนุนภาคการเกษตร การสร้างตลาดคาร์บอนภาคบังคับ

             ซึ่งจำเป็นต้องเก็บภาษีคาร์บอน การเปลี่ยนนโยบายแข่งขันทางการค้าและการดำเนินงานของ          สรุปการประชุมกลุ่มย่อยที่ 5
             คณะกรรมการชุดต่าง ๆ การเข้าร่วมกลุ่มทางเศรษฐกิจ CPTPP เป็นต้น สิ่งเหล่านี้จะเกิดไม่ได้
             ถ้าไม่มีความกล้าหาญทางการเมือง ทั้งนี้ประเด็นสำคัญ คือ ประชาธิปไตยทางเศรษฐกิจ
   188   189   190   191   192   193   194   195   196   197   198