Page 59 - kpiebook66025
P. 59
59
อ�านาจของประธานาธิบดีต้องได้รับความเห็นชอบจากสภาที่ปรึกษาประชาชนก่อนเสมอ
ประธานาธิบดีไม่มีอ�านาจในการประกาศกฤษฎีกาเพื่อบังคับใช้เป็นกฎหมายได้
อย่างง่ายดายเหมือนแต่ก่อน แต่ต้องผ่านกระบวนการพิจารณาในระบบรัฐสภา
ก่อนทุกครั้ง ภายใต้ยุคสุฮาร์โตรัฐสภาไม่สามารถคานอ�านาจกับผู้น�าประเทศได้
แต่ปัจจุบันความสัมพันธ์ระหว่างผู้น�าประเทศและฝ่ายนิติบัญญัติมีการคานอ�านาจกัน
มากขึ้น ฝ่ายนิติบัญญัติมีอ�านาจในการออกกฎหมายและควบคุมการใช้อ�านาจของ
ประธานาธิบดี สมาชิกรัฐสภามาจากการเลือกตั้งทั้งหมด กฎหมายต้องผ่านการพิจารณา
และแก้ไขจากสมาชิกรัฐสภา 32
โดยสามารถสรุปบทบาทของรัฐสภายุคปฏิรูปใน 4 ประเด็น ดังต่อไปนี้
1. การปฏิรูปประชาธิปไตยแบบเลือกตั้งและรัฐธรรมนูญภายใต้รัฐสภา
โดยเฉพาะรัฐสภาที่ไม่ได้ถูกจ�ากัดอ�านาจ และท�าหน้าที่ในฐานะตัวแทนของ
ประชาชน การออกกฎหมายและการควบคุม การบริหารงานของรัฐบาล
2. กระบวนการตัดสินใจของรัฐสภา ที่เคยกระจุกตัวเฉพาะบางกลุ่ม
โดยเฉพาะชนชั้นน�ามากกว่าการรับฟังความคิดเห็นจากประชาชน เพราะ
รัฐสภาอินโดนีเซียแตกต่างกับรัฐสภาอื่นในแง่ที่รัฐสภาถูกจัดตั้ง (set up)
และมีวัฒนธรรมการเมืองเข้าไปเกี่ยวข้องภายใต้การน�าของกลุ่มอ�านาจเดียว
รัฐสภาอินโดนีเซียจะเน้นในการสร้างวัฒนธรรมทางการเมือง โดยการสนับสนุน
และควบคุมกลุ่มอ�านาจ ดังนั้นการตัดสินใจภายในโครงสร้างและหลีกเลี่ยง
การลงคะแนนอย่างเปิดเผย ทั้งหมดย่อมเป็นการแข่งขันทางการเมือง
และแบ่งแยกบทบาทหน้าที่ทางการเมืองของกลุ่มชนชั้นสูงในสังคม
ในขณะเดียวกันรัฐสภาก็เป็นตัวแทนในการแสดงถึงคุณภาพของประชาธิปไตย
ในประเทศนั้น
3. ความจ�าเป็นในการเลือกตั้งใหม่ คุณสมบัติของผู้มีสิทธิ์เลือกตั้ง
การเข้ามาท�าหน้าที่ฝ่ายนิติบัญญัติที่กลายเป็นประเด็นสาธารณะซึ่งเป็น
32 Martin Russell, “Political institutions in Indonesia: Democracy, decentralization,
diversity,” European Parliament (January 2020).