Page 60 - kpiebook66025
P. 60
60 การรวมกลุ่มในรัฐสภาเพื่อกิจกรรมทางการเมืองของรัฐสภาอินโดนิเซีย
ความรับผิดชอบของรัฐสภา และส่งเสริมให้สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
เป็นสถาบันที่เป็นตัวแทนของประชาชนมากขึ้น
4. ความหลากหลายของพลวัตในการร่างกฎหมาย ผลมาจากความขัดแย้ง
ของสถาบันทางการเมือง เช่น ความอ่อนแอในการสร้างกฎระเบียบภายใน
พรรคการเมือง
แม้ว่าอินโดนีเซียจะมีการปฏิรูปทางการเมืองและกองทัพ แต่เนื่องจากสถาบัน
ของรัฐได้ถูกหล่อหลอมด้วยแนวคิดเผด็จการมาอย่างยาวนานนั้น ท�าให้ความสัมพันธ์
ระหว่างประธานาธิบดีและรัฐสภายังอยู่ในสภาวะคลุมเครือ ไม่มีกฎหมายรองรับแน่นอนว่า
อินโดนีเซียจะใช้ระบบประธานาธิบดีหรือระบบรัฐสภา หรือผสมกันทั้งสองระบบ
จึงมีความพยายามเรื่อยมาในการแก้ไขกฎหมายและให้อ�านาจสูงสุดแก่สภาที่ปรึกษา
ประชาชนและสภาผู้แทนราษฎรอันเป็นตัวแทนจากประชาชนอย่างแท้จริง จนน�าไปสู่
การปรับแก้ไขที่มาของประธานาธิบดีให้มาจากการเลือกตั้งโดยตรงจากประชาชน
และลดบทบาทของกองทัพให้หมดไปจากรัฐสภา เห็นได้จากผลการเลือกตั้งในปี 2009
กล่าวคือ ตั้งแต่การเลือกตั้งครั้งแรกในปี 1955 ที่มี 500 ที่นั่ง โดยแบ่งเป็น 462 คน
มาจากการเลือกตั้ง และอีก 38 ที่นั่งส�าหรับกองทัพ ในปี 2004 มีทั้งหมด 550 ที่นั่ง
ทั้งหมดมาจากการเลือกตั้ง ในปี 2009 การเลือกตั้งเพิ่มขึ้นเป็น 560 ไม่มีการส�ารอง
ที่นั่งส�าหรับกองทัพให้เข้าไปในรัฐสภา ถือเป็นการสิ้นสุดอ�านาจของกองทัพในรัฐสภา
อย่างแท้จริง
รัฐสภาอินโดนีเซียเป็นองค์กรที่ประกอบด้วยสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรและ
สภาผู้แทนภูมิภาคซึ่งมาจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน ท�าหน้าที่เป็นตัวแทน
ของประชาชนผู้ใช้อธิปไตยโดยตรง อีกทั้งยังเป็นศูนย์กลางการเปลี่ยนผ่านทางการเมือง
ของอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 1998 การกลับมามีความส�าคัญเป็นหนึ่งในสถาบันของรัฐ
ขนาดใหญ่ที่มีอ�านาจทางการเมือง เพราะก่อนหน้านี้โดยเฉพาะในยุคระเบียบใหม่
กลุ่มที่มีอิทธิพลในรัฐสภาจ�ากัดเฉพาะชนชั้นน�า และมีผลต่อการตัดสินใจที่เกี่ยวกับ
ชีวิตคนทั้งประเทศ จนกระทั่งปี 1998 ที่เกิดการเปลี่ยนแปลง รัฐสภาใหม่ได้กลายเป็น
องค์กรที่ท�าหน้าที่และเป็นตัวแทนของประชาชนอย่างแท้จริงในการออกกฎหมายและ
เป็นส่วนหนึ่งของกระบวนการสร้างประชาธิปไตยที่แท้จริงของอินโดนีเซีย