Page 16 - kpiebook66022
P. 16

สถาบันพระปกเกล้า
             King Prajadhipok’s Institute

          1.3 ขอบเขตการวิจัย
               มุ่งศึกษาเฉพาะรัฐสภา อันประกอบด้วยสภาผู้แทนราษฎรและวุฒิสภา ที่ได้มาตามกระบวนการ
          ที่กำาหนดไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ที่ ซึ่งทำาหน้าที่ตั้งแต่วันที่ 24 มีนาคม
          2562 เป็นต้นมา



          1.4 กรอบแนวคิดในการศึกษา
               ในการศึกษานี้ คณะผู้วิจัยใช้กรอบแนวคิดการประเมินรัฐสภาของสหภาพรัฐสภา หรือ Inter-
          Parliamentary Union (2008) เป็นหลัก ประกอบกับกรอบอำานาจหน้าที่ของรัฐสภาตามรัฐธรรมนูญ
          แห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 ดังนี้
               1)  การเป็นตัวแทนของประชาชน  (The representativeness of parliament)
               2)  การทำาหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ  (Parliament’s legislative capacity)
               3)  การตรวจสอบฝ่ายบริหาร  (Parliamentary oversight over the executive)
               4)  ความโปร่งใสและการเข้าถึงได้  (The transparency and accessibility of parliament)
               5)  ความสำานึกรับผิดชอบ  (The accountability of parliament)
               6)  การมีส่วนร่วมในนโยบายระหว่างประเทศ  (Parliament’s involvement in international policy)

               ทั้งนี้ การประเมินผลการดำาเนินงานของรัฐสภาในการศึกษานี้ แบ่งเป็น
               1) การประเมินการดำาเนินงานของรัฐสภาทั้ง 6 ด้าน ตามกรอบแนวคิดการประเมินของสหภาพ
          รัฐสภา ได้แก่ การเป็นตัวแทนของประชาชน การตรวจสอบฝ่ายบริหาร การทำาหน้าที่ด้านนิติบัญญัติ
          ความโปร่งใสและการเข้าถึงได้ ความสำานึกรับผิดชอบ และการมีส่วนร่วมในนโยบายต่างประเทศ โดยประเมิน
          จากความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกับรัฐสภา และอาศัยการเก็บข้อมูลทั้งเชิงปริมาณและ
          เชิงคุณภาพ
               2) การประชุมกลุ่ม (Focus Group) โดยเป็นการตอบแบบสอบถามประกอบการสัมภาษณ์

          กลุ่มผู้เชี่ยวชาญและผู้ชำานาญการประจำาตัวสมาชิกรัฐสภา
               3)  การสัมภาษณ์ผู้ทรงคุณวุฒิ และสมาชิกรัฐสภา โดยใช้แบบสอบถามแบบเดียวกับการประชุมกลุ่ม
          (World Café)



















           2
   11   12   13   14   15   16   17   18   19   20   21