Page 49 - kpiebook65072
P. 49
48 บทบัญญัติทางกฎหมาย เพื่อการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
กางขากว้าง พร้อมให้ยื่นเขย่งขาเป็นเวลานาน ส่วนกรณีการกระทำาให้
40
บุคคลสูญหายนั้น แม้มิอาจพิสูจน์ให้แน่ชัดได้ว่าบุคคลนั้นถูกจำากัดเสรีภาพ
ในการเคลื่อนไหวร่างกาย แต่ก็อาจอนุมานได้ว่าการที่บุคคลนั้นสูญหายไป
ก็เป็นเพราะถูกคุมขังในสถานที่แห่งหนึ่งก็ได้ ซึ่งในบริบทนี้สอดคล้องกับหลักการ
ที่บุคคลไม่พึงถูกจับกุมหรือคุมขังโดยอำาเภอใจ ทั้งนี้ การตีความคำาว่า “อำาเภอใจ”
(Arbitrary) ควรกระทำาในลักษณะกว้างและควรคำานึงถึงลักษณะที่ “ไม่เหมาะสม
41
อยุติธรรม คาดหมายไม่ได้ และไม่เป็นไปตามกระบวนการทางกฎหมาย”
ดังนั้น การจับกุมหรือคุมขังที่มีลักษณะอำาเภอใจ คือ การจับกุมหรือคุมขัง
ที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการและเหตุผลที่ชอบด้วยกฎหมายตามที่กฎหมาย
ภายในกำาหนด ซึ่งเป็นการกำาหนดจากการที่อนุวัติการให้เป็นไปตามมาตรฐาน
ทางกฎหมายระหว่างประเทศ ตัวอย่างที่พบเห็นได้บ่อยในกรณีการกระทำาให้
42
บุคคลสูญหาย คือ การจับกุมหรือคุมขังบุคคลใดที่ไม่เป็นไปตามกระบวนการ
ทางกฎหมาย ประกอบกับมีเหตุอันควรเชื่อได้ว่าเป็นไปเพื่อปราบปรามการแสดง
43
ความคิดเห็นทางการเมืองของฝ่ายตรงข้าม ด้วยเหตุนี้ เมื่อพิจารณาประกอบกับ
พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนในเชิงรูปแบบของรัฐ ประเทศไทยโดยหน่วยงาน
หรือตัวแทนของรัฐ จึงมีพันธกรณีในการเคารพสิทธิในเสรีภาพของร่างกาย
ด้วยการไม่กระทำาการใด ๆ ที่ส่งผลเป็นการทรมานหรือการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
ตลอดจนมีพันธกรณีในการคุ้มครองสิทธิในเสรีภาพของร่างกายด้วยการกระทำา
การใด ๆ เพื่อป้องกันมิให้บุคคลได้รับผลกระทบจากการทรมานหรือการกระทำา
ให้บุคคลสูญหายที่กระทำาโดยเอกชน และมีพันธกรณีในการออกมาตรการ
40 Ireland v. The United Kingdom, 5310/71, Council of Europe: European
Court of Human Rights, (1977), para. 96.
41 Mukong v. Cameroon, Communication No. 458/1991, UN Human Rights
Committee (HRC), (1994), para. 9.8.
42 Supra Note 15, p. 444.
43 Sarma v. Sri Lanka, Communication No.950/2000, UN Human Rights Com-
mittee (HRC), (2000), para. 9.4.
inside_ .indd 48 14/9/2565 11:15:01