Page 41 - kpiebook65072
P. 41
40 บทบัญญัติทางกฎหมาย เพื่อการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
ดังที่ได้กล่าวไปข้างต้น ปัจจุบันประเทศไทยมีพันธกรณีภายใต้ตราสาร
ระหว่างประเทศดังกล่าวใน 2 ลักษณะ กล่าวคือ ประการแรก ประเทศไทย
ในฐานะที่เป็นรัฐภาคีกติกา ICCPR และอนุสัญญา CAT มีพันธกรณีที่จะต้อง
ปฏิบัติตามข้อบทที่ประเทศไทยมิได้ตั้งข้อสงวนไว้ในตราสารทั้ง 2 ฉบับนี้ และ
ต้องปรับปรุงกฎหมายภายในที่มีอยู่เดิมหรือตรากฎหมายภายในขึ้นมาใหม่
เพื่ออนุวัติการให้เป็นไปตามพันธกรณี และประการที่สอง ประเทศไทยในฐานะ
ที่เป็นรัฐที่เข้าลงนามในอนุสัญญา CED มีพันธกรณีที่จะหลีกเลี่ยงไม่กระทำาการใด ๆ
ในลักษณะที่ขัดหรือแย้งต่อความมุ่งประสงค์และวัตถุประสงค์ (Object and
14
Purpose) ของอนุสัญญา CED อย่างไรก็ดี เนื่องจากประเทศไทยกำาลังอยู่ใน
กระบวนการจัดทำาร่างพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการทรมานและ
การกระทำาให้บุคคลสูญหาย พ.ศ. .... (ร่างพระราชบัญญัติฯ) เพื่อเตรียมพร้อม
ก่อนการเข้าเป็นภาคีในอนุสัญญา CED นั้น การวิเคราะห์พันธกรณีของไทย
จะดำาเนินการบนพื้นฐานเสมือนหนึ่งประเทศไทยมีพันธกรณีภายใต้อนุสัญญา
CED ในฐานะรัฐภาคีแล้ว
การวิเคราะห์พันธกรณีของไทยภายใต้ตราสารทั้ง 3 ฉบับนี้ จะต้องแบ่ง
การพิจารณาออกเป็น 2 ประเด็นด้วยกัน คือ
1. พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนในเชิงรูปแบบ
2. พันธกรณีด้านสิทธิมนุษยชนในเชิงเนื้อหา
14 United Nations, Vienna Convention on the Law of Treaties, UNTS
Vol. 1155, 1969, p. 331 (VCLT), Art. 18.
“A State is Obliged to refrain from acts which would defeat the
object and purpose of a treaty when: (a) it has signed the treaty or has
exchanged instruments constituting the treaty subject to ratification,
acceptance, approval, until it shall have made its intention clear not to
become a party to the treaty;”
inside_ .indd 40 14/9/2565 11:15:01