Page 170 - kpiebook65072

169

ในขั้นแรก รัฐภาคีจะต้องรวบรวมข้อมูลและเก็บทะเบียนในลักษณะ
ที่เป็นปัจจุบัน (Up-to-date Register) ของบุคคลที่ถูกจำากัดเสรีภาพ เพื่อเป็น

หลักประกันว่าบุคคลดังกล่าวยังคงถูกคุมขังตามกระบวนการยุติธรรมที่ชอบด้วย
กฎหมาย โดยอนุสัญญา CED ข้อ 17(3) ได้ระบุข้อมูลที่รัฐภาคีจะต้องจัดเก็บ
อย่างน้อย 8 ประการ ทั้งนี้ รัฐภาคีมีพันธกรณีที่จะต้องเปิดเผยข้อมูลดังกล่าว

เมื่อได้รับการร้องขอจากเจ้าพนักงานของรัฐที่มีอำานาจ โดยการเปิดเผยข้อมูลนั้น
จะต้องกระทำาในลักษณะที่ “เปิดเผยได้โดยพลัน” ซึ่งมาจากคำาภาษาอังกฤษว่า

“made promptly available” เพื่อประกันว่าข้อมูลที่เปิดเผยนั้นเป็นข้อมูล
ที่เก็บไว้อยู่แล้ว มิได้เกิดจากการแต่งเติมขึ้นให้ผิดไปจากความจริง และเพื่อมิให้
กระบวนการเข้าถึงข้อมูลเป็นไปอย่างล่าช้า 315

อย่างไรก็ดี หากเป็นกรณีที่บุคคลที่ถูกจำากัดเสรีภาพนั้นยังคงถูกกระทำา
ให้สูญหาย รัฐมีหน้าที่ประกันว่าข้อมูลส่วนบุคคล (Personal Data) ซึ่งรวมถึง

ข้อมูลทางการแพทย์และพันธุกรรมของบุคคลที่รัฐได้รวบรวมและเก็บทะเบียนนั้น
จะต้องนำามาใช้เพื่อวัตถุประสงค์ในการค้นหาบุคคลที่ถูกกระทำาให้สูญหายเท่านั้น

และจะต้องไม่ใช้หรือเปิดเผยเพื่อการใดนอกเหนือไปจากวัตถุประสงค์นี้
ทั้งนี้ เพื่อเป็นการคุ้มครองสิทธิในความเป็นส่วนตัว (Right to Privacy)
316
ของบุคคลนั้น เว้นแต่ว่าข้อมูลดังกล่าวจะถูกนำาไปใช้สำาหรับกระบวนการ
พิจารณาคดีทางอาญาหรือคดีเกี่ยวกับการชดใช้ค่าเสียหาย

315 Supra Note 190, p. 556.
316 Supra Note 15, p. 256-257.

inside_ .indd 169 14/9/2565 11:15:05