Page 111 - kpiebook65072
P. 111
110 บทบัญญัติทางกฎหมาย เพื่อการป้องกันและปราบปรามการทรมานและการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
และอนุสัญญาสิทธิมนุษยชนอเมริกาที่ได้กล่าวถึงประเด็นนี้ไว้ว่า ตราบใดที่
ผู้กระทำาผิดยังคงปกปิดชะตากรรมและที่อยู่ของบุคคลที่ถูกกระทำาให้สูญหาย
และข้อเท็จจริงต่าง ๆ ยังมิได้ถูกทำาให้กระจ่าง การกระทำาให้บุคคลสูญหายนั้น
ยังคงเป็นความผิดต่อเนื่อง ส่งผลให้ความผิดฐานการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
208
ยังคงไม่ยุติลง และอายุความก็ยังไม่อาจเริ่มนับได้
สำาหรับคำาว่า “ความผิดที่มีลักษณะต่อเนื่อง” นั้น คณะกรรมาธิการ
กฎหมายระหว่างประเทศให้ความหมายของความผิดที่มีลักษณะต่อเนื่อง หรือ
“continuous nature” ไว้ว่า เป็นการกระทำาที่เกิดขึ้นเพียงครั้งหนึ่งแต่ขยายผล
ไปเป็นระยะเวลาหนึ่งและมีลักษณะที่ยืดเยื้อ (“a single act but extends
209
over a period of time and is of a lasting nature”) โดยการกำาหนด
ให้การกระทำาให้บุคคลสูญหายเป็นความผิดที่มีลักษณะต่อเนื่อง นอกจาก
จะทำาให้ไม่อาจเริ่มนับอายุความได้แล้วนั้น ยังส่งผลให้รัฐภาคีสามารถมีเขตอำานาจ
ด้านเวลา (Jurisdiction ratione temporis) เหนือการกระทำาให้บุคคลสูญหาย
210
ได้เกิดขึ้นก่อนที่รัฐจะเข้าเป็นภาคีได้ เนื่องจากโดยหลักแล้วพันธกรณีภายใต้
211
อนุสัญญาจะไม่มีผลบังคับใช้ย้อนหลังไปถึงช่วงเวลาก่อนที่รัฐนั้นจะเข้าเป็นภาคี
และหากมิได้กำาหนดให้เป็นความผิดที่มีลักษณะต่อเนื่อง รัฐก็จะไม่มีเขตอำานาจเหนือ
208 Supra Note 137, Art. 17(1); UN Declaration, Supra Note 111, ACHR, Art. III.
209 International Law Commission, Commentary on the Draft Articles
on the Origin of State Responsibility, Report of the International Law
Commission on the work of its twenty-eighth session, 3 May - 23
July 1976, Official Records of the General Assembly, Thirty-first session,
Supplement No. 10, UN Doc. A/31/10, p. 73.
210 Alan Nissel, “Continuing Crimes in the Rome Statute,” in Michigan
Journal of International Law Vol. 35 (2004), p. 655.
211 Supra Note 14, VCLT, Art. 28.
inside_ .indd 110 14/9/2565 11:15:03