Page 106 - kpiebook65072
P. 106
105
3.3.2.1 หลักดินแดนและหลักธง
อนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ กำาหนดให้รัฐภาคีมีเขตอำานาจเหนือความผิด
ภายใต้หลักดินแดน (Territorial Principle) หากการกระทำาผิดนั้นได้เกิดขึ้น
ในดินแดนภายใต้เขตอำานาจของตน โดยอนุสัญญาใช้คำาว่า “any territory
under its jurisdiction” ซึ่งนอกจากจะหมายถึงดินแดนทางบก ทางทะเล
หรือห้วงอากาศที่เป็นอาณาเขตของรัฐแล้ว ยังกินความขยายไปถึงดินแดน
196
ที่รัฐมีความควบคุมในทางความเป็นจริง (de facto control) ด้วย
ทั้งนี้ เขตอำานาจนี้ต้องอยู่ภายใต้ข้อยกเว้นด้านความคุ้มกันตามกฎหมาย
ภายในหรือกฎหมายระหว่างประเทศที่มีให้แก่บุคคลบางประเภท เช่น
นักการทูตหรือผู้แทนของรัฐต่างชาติ ด้วย นอกจากนี้ อนุสัญญายังกำาหนด
197
ให้ใช้หลักธง (Flag Principle) เพื่อให้รัฐสามารถมีเขตอำานาจเหนือเรือ
หรืออากาศยานที่จดทะเบียนในรัฐตนได้ เช่น หากพบว่ามีการขนส่งบุคคล
ที่ถูกกระทำาให้สูญหายบนเที่ยวบิน รัฐภาคีที่อากาศยานนั้นจดทะเบียน
มีเขตอำานาจเหนือความผิดดังกล่าว 198
3.3.2.2 หลักสัญชาติ
อนุสัญญาทั้ง 2 ฉบับ กำาหนดให้รัฐภาคีมีเขตอำานาจเหนือความผิด
ภายใต้หลักการเกี่ยวกับสัญชาติ 2 หลักการ กล่าวคือ ประการแรก หลักสัญชาติ
196 Manfred Nowak and Elizabeth McArthur, The United Nations
Convention Against Torture: A Commentary (Oxford, New York, Auckland,
2008), p. 309, para. 145.
197 United Nations, Vienna Convention on Diplomatic Relations, UNTS
Vol. 500, 1969, p. 95 (VCDR), Art. 31
“1. A diplomatic agent shall enjoy immunity from the criminal jurisdiction
of the receiving State.”.
198 Supra Note 196, p. 309, para. 146.
inside_ .indd 105 14/9/2565 11:15:03