Page 116 - kpiebook65072
P. 116
115
การกำาหนดเหตุบรรเทาโทษและเหตุฉกรรจ์ เป็นแนวทางใหม่
ซึ่งอนุสัญญา CED เป็นอนุสัญญาแรกที่นำาแนวทางนี้มาใช้ โดยระบุให้เป็นทางเลือกว่า
รัฐอาจใช้ดุลพินิจกำาหนดเหตุบรรเทาโทษและเหตุฉกรรจ์ในกฎหมายอาญาภายใน
219
ของตนก็ได้ หากพบว่าพฤติการณ์แห่งคดีนั้นสอดคล้องกับที่อนุสัญญาได้ระบุ
โดยในกรณีเหตุบรรเทาโทษนั้น อนุสัญญา CED ระบุว่ารัฐภาคีอาจกำาหนดให้
บุคคลซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำาให้บุคคลสูญหาย แต่ต่อมากลับ
ได้เข้ามามีส่วนช่วยอย่างมีประสิทธิภาพให้สามารถค้นพบบุคคลที่ถูกกระทำาให้
สูญหายโดยที่บุคคลนั้นยังมีชีวิตอยู่ หรือช่วยให้สามารถคลี่คลายคดีการกระทำา
ให้บุคคลสูญหายหรือชี้ตัวผู้กระทำาผิด ให้สามารถได้รับการบรรเทาโทษได้
อย่างไรก็ดี เนื่องจากอนุสัญญา CED ระบุเพียงตัวอย่าง (Non-exhaustive List)
เท่านั้น รัฐภาคีจึงอาจระบุพฤติการณ์อื่นเพิ่มเติมก็ได้ หรืออาจกำาหนดเงื่อนไข
ให้เคร่งครัดขึ้นก็ได้ เช่น กำาหนดให้ผู้กระทำาผิดโดยตรง (Direct Perpetrator)
220
ไม่อาจได้ประโยชน์จากเหตุบรรเทาโทษ แต่ผู้สมรู้ร่วมคิดหรือผู้สนับสนุนอาจ
ได้รับประโยชน์จากเหตุบรรเทาโทษได้ โดยรัฐภาคีจะต้องระมัดระวังว่าการกำาหนด
เหตุบรรเทาโทษนั้นจะเป็นข้อยกเว้นที่จะต้องได้รับการพิจารณาเป็นกรณีพิเศษ
เท่านั้น และต้องไม่กระทบต่อวัตถุประสงค์และความมุ่งประสงค์ของอนุสัญญา 221
สำาหรับในกรณีเหตุฉกรรจ์นั้น อนุสัญญา CED ระบุว่ารัฐภาคีอาจ
กำาหนดให้บุคคลซึ่งถูกกล่าวหาว่าเกี่ยวข้องกับการกระทำาให้บุคคลสูญหายต้อง
ได้รับโทษหนักขึ้น หากบุคคลที่ถูกกระทำาให้สูญหายเสียชีวิต หรือการกระทำาให้
219 Supra Note 15, p. 213.
220 OAS Doc, OEC/Ser.L/V/II.74 doc. 10 rev. 1, para II.
221 United Nations Commission on Human Rights (CHR), Report of the Inter-
sessional Open-ended Working Group to elaborate a draft legally binding
normative instrument for the protection of all persons from enforced
disappearance, UN Doc. E/CN.4/2006/57, para. 12
inside_ .indd 115 14/9/2565 11:15:03