Page 241 - kpiebook65063
P. 241
ต่อตนเองในทางลบเนื่องจากตนเองมองว่าสภาพความพิการทำให้ตนเองมีความแตกต่างจากสังคม
และสะสมทัศนคติทางลบจนนำไปสู่การ “ปฏิเสธสังคม”
การจัดการผู้พิการในพื้นที่เทศบาลเมืองบ้านสวนเริ่มต้นด้วยการจัดตั้งชมรมผู้พิการ
ท้องถิ่นกับภารกิจที่ท้าทายหลังวิกฤตโควิด-19 โครงการลงพื้นที่เยี่ยมบ้านผู้พิการ ซึ่งผู้บริหารเทศบาลได้พยายามยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการ
โดยความร่วมมือของเทศบาลเมืองบ้านสวนและกลุ่มผู้พิการในพื้นที่ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2554 โดยมี
มาอย่างต่อเนื่อง โดยตั้งแต่ปีงบประมาณ 2554 นายกเทศมนตรีได้มอบหมายให้กองสวัสดิการ
สังคมสำรวจความต้องการของผู้พิการมาอย่างต่อเนื่องและจัดสรรงบประมาณลงไปสู่แผนงานและ
โครงการเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการให้เป็นรูปธรรม
นับตั้งแต่มีการจัดตั้งชมรมผู้พิการในพื้นที่ความรับผิดชอบของเทศบาลบ้านสวนตั้งแต่
ปี พ.ศ. 2554 การยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการก็มีความก้าวหน้าเพิ่มขึ้นเป็นลำดับจนสามารถ
ยกระดับเป็นศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการในปี พ.ศ. 2558 โดยจัดทำโครงการเพื่อลด
ความเหลื่อมล้ำทางสังคมในกลุ่มผู้พิการ ซึ่งผู้บริหารเทศบาลกำหนดวัตถุประสงค์ครอบคลุมเรื่อง
(1) ลดปัญหาช่องทางสังคม เศรษฐกิจ และการเมือง (2) เปลี่ยนผู้พิการให้เป็นพลังที่สร้างสรรค์
ในสังคม (3) ส่งเสริมสุขภาวะในทุกมิติให้แก่ผู้พิการ และ (4) พัฒนาเครือข่ายทางสังคมให้เข็มแข็ง
เพื่อพร้อมช่วยเหลือสนับสนุนผู้พิการ
ส่วนที่ บันทึกเรื่องเด่นรางวัลพระปกเกล้า: ท้องถิ่นกับบริการสาธารณะ
ภายใต้ศูนย์พัฒนาคุณภาพชีวิตผู้พิการ นายกเทศมนตรีได้จัดสรรงบประมาณลงสู่แผนงาน
และโครงการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการให้ครบทั้ง 4 วัตถุประสงค์
ดังกล่าว การที่ผู้บริหารเทศบาลมีภาวะผู้นำ กำหนดวิสัยทัศน์ และนโยบายที่ชัดเจนต่อ
การยกระดับคุณภาพชีวิตผู้พิการในพื้นที่เป็นปัจจัยผลักดันแผนงานและการบริหารโครงการต่าง ๆ
ให้ขับเคลื่อนลงสู่กลุ่มผู้พิการอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง นายวิชิต ชิตวิเศษ ในฐานะ
นายกเทศมนตรีเมืองบ้านสวน ยึดหลัก “เข้าใจสภาพปัญหา เข้าถึงประชาชน และพัฒนาอย่าง
ยั่งยืน” ซึ่งได้กำหนดเป็นปรัชญาสำคัญในการกำหนดนโยบายและแนวทางการปฏิบัติงานของทุก
ส่วนงานที่ต้องให้ความสำคัญกับความเดือดร้อนของประชาชนเป็นอันดับแรก และเทศบาล
ต้องลงมือทำทันที ในการรวบรวมความต้องการของประชากรในพื้นที่ เทศบาลจัดประชุม
ประชาคมคณะกรรมการชุมชน กลุ่มหรือชมรมต่าง ๆ เป็นประจำทุกเดือน (ยกเว้นช่วงการเกิด
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื่อทางเดินหายใน 2019 (Covid-19) ได้ใช้การประชุม
ออนไลน์แทน) นอกจากนั้น เทศบาลยังเปิดช่องทางการสื่อสารที่หลากหลายเพื่อเป็นแหล่ง
รวบรวมเสียงสะท้อนจากประชากรทุกกลุ่ม อาทิ สายด่วน website facebook กลุ่มไลน์ เป็นต้น
ซึ่งเห็นได้ว่า นายกเทศมนตรีและผู้บริหารเทศบาลบริหารงานอยู่บนพื้นฐานของข้อมูลจาก
หลากหลายแหล่งและรอบด้านเพื่อนำมาวิเคราะห์และสังเคราะห์จนนำไปสู่การถ่ายทอดนโยบาย
ลงสู่ผู้ปฏิบัติงานของเทศบาลทุกระดับ
2 0 สถาบันพระปกเกล้า