Page 69 - kpiebook65024
P. 69
68 ประเด็นส�ำคัญที่พึงมีในรัฐธรรมนูญแห่งรำชอำณำจักรไทย
ในประเด็นความแตกต่างเล็กน้อยระหว่างการระบุถึงต�าแหน่งข้าราชการ
ในพระองค์และสมุหราชองครักษ์ กับการระบุเพียงต�าแหน่งข้าราชการในพระองค์นั้น
ไม่ได้มีนัยส�าคัญที่แตกต่างกัน ทั้งนี้การเปลี่ยนแปลงดังกล่าวเกิดขึ้นเพราะความตั้งใจของ
รัฐบาลและฝ่ายนิติบัญญัติในเวลานั้นที่ต้องการจะประกาศใช้พระราชบัญญัติระเบียบ
บริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 ภายหลังจากการประกาศใช้รัฐธรรมนูญฯ
3
พ.ศ. 2560 โดยในพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ฯ มีสาระส�าคัญ
คือ การจัดตั้ง “ส่วนราชการในพระองค์” ขึ้น ท�าให้ต�าแหน่งสมุหราชองครักษ์ซึ่งเดิม
สังกัดกระทรวงกลาโหมย้ายมาสังกัดส่วนราชการในพระองค์และถูกเรียกรวมว่าเป็น
ข้าราชการในพระองค์ ดังนั้นการเปลี่ยนแปลงถ้อยค�าในส่วนนี้จึงเป็นเพียงการเปลี่ยนแปลง
เพื่อให้เกิดความสอดคล้องกับส่วนราชการในพระองค์ที่ได้จัดตั้งขึ้นมาใหม่
แต่ความแตกต่างที่ควรหยิบยกขึ้นมาพิจารณาคือ การจัดระเบียบราชการ
และการบริหารงานบุคคลของข้าราชการในพระองค์ที่ถูกเพิ่มเติมขึ้นมาตามความ
ในวรรคสองของมาตรา 15 ซึ่งเกี่ยวข้องกับกฎหมายสองฉบับคือ พระราชบัญญัติ
ระเบียบบริหารราชการในพระองค์ พ.ศ. 2560 ที่เพิ่งกล่าวถึงไปเมื่อสักครู่ และ
พระราชกฤษฎีกาจัดระเบียบราชการและการบริหารงานบุคคลของราชการในพระองค์
พ.ศ. 2560 โดยเหตุผลท้ายพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ฯ กล่าวถึง
ความจ�าเป็นของการจัดตั้งส่วนราชการในพระองค์ไว้มีสาระส�าคัญว่า การปฏิบัติราชการ
ของส�านักราชเลขาธิการ ส�านักพระราชวัง และกรมราชองครักษ์และหน่วยบัญชาการ
ถวายความปลอดภัยรักษาพระองค์ กระทรวงกลาโหมนั้นแตกต่างจากส่วนราชการของ
3 พระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการในพระองค์ฯ ประกาศลงในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2560 ขณะที่รัฐธรรมนูญฯ พ.ศ. 2560 ประกาศใช้ในราชกิจจานุเบกษา
เมื่อวันที่ 6 เมษายน 2560