Page 142 - kpiebook65024
P. 142
141
ให้ประเทศต่าง ๆ รวมทั้งประเทศไทยได้ใช้เป็นแบบอย่างในการก�าหนดบทบัญญัติ
ดังกล่าวไว้ในรัฐธรรมนูญ อย่างไรก็ดีรัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน ซึ่งเรียกว่า “กฎหมาย
พื้นฐานแห่งสหพันธ์สาธารณรัฐเยอรมนี” (The Basic Law for the Federal Republic
of Germany) ประกาศใช้เมื่อวันที่ 23 พฤษภาคม ค.ศ. 1949 (สภาวิจัยแห่งชาติ, 2516)
โดยมิได้ยึดถือตามรัฐธรรมนูญไวมาร์ซึ่งบัญญัติแนวหลักการของนโยบายสังคมไว้ใน
รัฐธรรมนูญ แต่กฎหมายพื้นฐานกลับบัญญัติไว้ในมาตรา 20 เพียงให้สหพันธ์สาธารณรัฐ
เยอรมันเป็นรัฐประชาธิปไตยและสหพันธ์รัฐสังคม (Social Federal State) โดยมิได้
ก�าหนดบทบัญญัติว่าด้วยแนวหลักการของนโยบายสังคมไว้ในรัฐธรรมนูญ ต่อมาเมื่อ
มีการแก้ไขเพิ่มเติมกฎหมายพื้นฐานเมื่อวันที่ 11 กรกฎาคม ค.ศ. 2012 ได้ก�าหนดไว้
ในมาตรา 20a ว่า “รัฐในความรับผิดชอบต่ออนุชนรุ่นหลังในอนาคตต้องพิทักษ์ปกป้อง
พื้นฐานธรรมชาติแห่งชีวิตมนุษย์และสัตว์ภายในกรอบแห่งระเบียบรัฐธรรมนูญฉบับนี้
(Constitutional Order) โดยการนิติบัญญัติตามกฎหมายและความยุติธรรมโดย
ฝ่ายบริหารและศาล” จึงถือได้ว่ารัฐธรรมนูญเยอรมนีปัจจุบันให้ความส�าคัญต่อ
แนวนโยบายแห่งรัฐเฉพาะด้านทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
รัฐธรรมนูญไวมาร์ซึ่งมีบทบัญญัติรวมทั้งสิ้น 181 มาตรา ได้บัญญัติ
“แนวหลักการของนโยบายสังคม” (Directive Principles of Social Policy) ไว้ในหมวด 2
มาตรา 109–165 (Main Part 2: Basic Rights and Obligations of Germans)
(บุญศรี มีวงศ์อุโฆษ, 2552) ซึ่งได้ก�าหนดหน้าที่ของรัฐไว้ในมาตรา 142–150 ได้ก�าหนด
แนวนโยบายด้านการศึกษาให้แก่รัฐในการจัดการศึกษาทั้งในระดับรัฐและรัฐบาลท้องถิ่น
โดยก�าหนดการศึกษาทั้งระดับประถมศึกษาเป็นสิ่งจ�าเป็นภาคบังคับและระดับการศึกษา
ขั้นสูงขึ้นไป ประชาชนมีสิทธิทางการศึกษาโดยไม่ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายจนถึงอายุ 18 ปี
ซึ่งสอดคล้องกับสิทธิเสรีภาพในการได้รับการศึกษาของประชาชน