Page 140 - kpiebook65024
P. 140

139




           รัฐธรรมนูญฯ ห้ามการส่งเสริมให้กลุ่มศาสนาหนึ่งอยู่เหนืออีกกลุ่มศาสนาหนึ่งรวมทั้ง

           การเลือกปฏิบัติ (Discrimination) บนพื้นฐานของศาสนาหรือศรัทธาความเชื่อ ทั้งนี้
           โดยรัฐบาลจะไม่จ�ากัดการสอนหรือการปฏิบัติตามศรัทธาความเชื่อทางศาสนาใด ๆ
           เนื่องจากไอร์แลนด์ไม่มีศาสนาประจ�าชาติ (No State Religion) นอกจากนี้รัฐธรรมนูญฯ

           ยังบัญญัติว่า “การตีพิมพ์หรือการพูดดูหมิ่นศาสนา” (Publication or Utterance of

           Blasphemous Matter) ถือเป็นความผิดที่ต้องถูกลงโทษตามกฎหมาย



            (2) แนวนโยบายพื้นฐานแห่งรัฐในรัฐธรรมนูญเยอรมนี


                  หลังจากการสิ้นสุดสงครามโลกครั้งที่ 1 แล้ว ประเทศเยอรมนีได้มีการเปลี่ยนแปลง
           ทางการเมืองที่ส�าคัญ คือ ได้มีการเปลี่ยนรูปของรัฐเยอรมันจากราชอาณาจักร (Kingdom)

           มาเป็นสาธารณรัฐ (Republic) โดยในส่วนของการร่างรัฐธรรมนูญไวมาร์ ค.ศ. 1919
           มีปัญหาในเบื้องต้นว่า จะใช้แนวทางการปกครองระบอบประชาธิปไตยระบบรัฐสภา

           ตามแนวทางของประเทศภาคพื้นยุโรปตะวันตกหรือจะใช้แนวทางสภาโซเวียตตาม
           ระบอบสังคมนิยมอย่างที่ประสบความส�าเร็จในประเทศรัสเซีย อย่างไรก็ดีในท้ายที่สุด

           ก็ได้มีการประนีประนอมกันเพื่อสถาปนาสาธารณรัฐภายใต้ระบอบประชาธิปไตย
           ในระบบรัฐสภาและได้ประกาศให้รัฐธรรมนูญไวมาร์มีผลบังคับใช้เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม

           ค.ศ. 1919 โดยใช้การปกครองระบบรัฐสภา กล่าวคือ มีสภาแห่งอาณาจักรท�าหน้าที่
           นิติบัญญัติและควบคุมฝ่ายบริหาร สภาที่ปรึกษาแห่งอาณาจักรท�าหน้าที่เป็นตัวแทน

           แห่งมลรัฐ รัฐบาลแห่งอาณาจักร (Reichsregierung) ประกอบด้วยนายกรัฐมนตรีแห่ง
           สหพันธ์และรัฐมนตรีต่าง ๆ โดยมีประธานาธิบดีแห่งสหพันธ์เป็นประมุขของประเทศ

           (บุญศรี มีวงศ์อุโฆษ, 2535)
   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145