Page 185 - kpiebook65022
P. 185

ส าหรับอุปสรรคของการเมืองสิ่งแวดล้อมเพื่อไปสู่เป้าหมายการพัฒนาอย่างยั่งยืน สรุปได้ว่ามีอุปสรรค
               ในภาพรวม ภาครัฐ ประชาสังคม และวิชาการ ในเชิงภาพรวม มีการเปลี่ยนแปลงสภาพอากาศ ซึ่งส่งผลต่อการ

               จัดการทรัพยากรได้ยากมากขึ้น ในประเทศไทยเองยังขาดมุมมองในการพัฒนาที่เชื่อมโยงระหว่างเศรษฐกิจ
               สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งไม่ได้เป็นปัญหาเฉพาะในเชิงนโยบายเพียงอย่างเดียว แต่ในระดับประชาชนเองก็ยังมี
               มุมมองที่ไม่เชื่อมโยงมิติเหล่านี้เช่นกัน ในภาพรวมยังมีปัญหาระบบข้อมูลและองค์ความรู้ด้วย เพราะแต่ละภาค
               ส่วนต่างมีข้อมูลคนละชุด เมื่อใช้ข้อมูลร่วมกันต่างอ้างข้อมูลของตนว่าถูกต้อง และสุดท้ายในภาพรวมประเทศไทย

               ขาดพื้นที่ร่วมที่จะให้ทุกภาคส่วนมาปรึกษาหารือกัน แต่ละภาคส่วนต่างด าเนินการและมีข้อเสนอของกลุ่มตน
               จึงไม่เกิดการรับฟังความต้องการของภาคส่วนที่ต่างกันว่ามีอะไรบ้าง และต่างยอมรับซึ่งกันและกันได้เพียงใด

                       ส าหรับอุปสรรคในภาครัฐเป็นอุปสรรคที่พบมากที่สุดในพื้นที่ของการเมืองสิ่งแวดล้อมก็ว่าได้ เป็น
               อุปสรรคในเรื่องของนโยบาย กฎหมาย และการบูรณาการระหว่างหน่วยงาน เริ่มจากนโยบายประเทศไทยมี
               การเปลี่ยนแปลงบ่อย ในส่วนของกฎหมายมีปัญหาซ้ าซ้อนและท าให้การท างานของหลายหน่วยงานมีความ

               ขัดแย้งกัน เช่น กฎหมายที่ว่าด้วยเรื่องของการให้สิทธิ์ในการมีที่ดินท ากินของกรมป่าไม้ มีการให้สิทธิ์พื้นที่ที่
               แตกต่างจากของกระทรวงเกษตรฯ หรือปัญหาเรื่องของความจริงจังในการบังคับใช้นโยบายและกฎหมาย
               อย่างเช่น กรณีที่มีการเผาไร่อ้อยที่ท าให้เกิดฝุ่นควัน ปัญหานี้ยังคงวนกลับมาซ้ า ๆ เพราะภาครัฐยังไม่มีความ

               จริงจังในการบังคับใช้กฎหมายมากพอ ส่วนปัญหาในเรื่องของการบูรณาการระหว่างหน่วยงานอย่างเช่น
               หน่วยงานหนึ่งไม่มีบทบาทหน้าที่ในการที่จะไปลงโทษหรือว่าบังคับใช้ ขณะที่อีกหน่วยงานมีบทบาทแต่กลับไม่
               ด าเนินการ เป็นต้น

                       ส าหรับอุปสรรคในด้านของภาคประชาสังคม พบว่า ยังขาดความเข้มแข็ง ทั้งในเชิงขององค์ความรู้
               และการรวมตัว เนื่องจากว่าส่วนใหญ่การรวมตัวของภาคประชาชนจะเกิดเมื่อได้รับผลกระทบ ไม่ได้มีการ

               รวมตัวอยู่ตลอดเวลาเพื่อจะปรึกษาหารือหรือเตรียมพร้อมในการจัดการสิ่งแวดล้อม อีกทั้ง ยังขาดแหล่งทุนใน
               การสนับสนุนที่จะท ากิจกรรมร่วมกันด้วย ในเชิงเป้าหมายขององค์กรของภาคประชาสังคมเองก็มีลักษณะ
               กระจัดกระจาย เพราะประชาสังคมเป็นที่รวมของกลุ่มคนหลายกลุ่มจึงมีเป้าหมายที่แตกต่างกัน ท าให้
               ทิศทางการเคลื่อนไหวไม่ชัดเจน นอกจากนี้ก็ภาคประชาสังคมยังขาดการเชื่อมโยงระหว่างสิ่งแวดล้อมกับ
               การเมือง เพราะ ประชาสังคมด้านสิ่งแวดล้อมบางส่วนยังยอมรับระบอบเผด็จการ ซึ่งเป็นระบอบที่ค้านกับ

               การเมืองสิ่งแวดล้อม ส าหรับภาควิชาการมีอุปสรรค คือ นักวิชาการบางส่วนท างานวิจัยให้กับเอกชนในรูปแบบ
               ที่มีค าตอบอยู่แล้ว อย่างเช่น การท าการประเมินผลกระทบสิ่งแวดล้อมเพื่อให้โครงการผ่านไปได้

                       ส าหรับกรณีที่เป็นประเด็นมาอย่างยาวนานและต้องได้รับการแก้ไขอย่างเร่งด่วน 3 อันดับแรก เป็น
               ประเด็นมลพิษ ทรัพยากรธรรมชาติ และความยุติธรรมทางสิ่งแวดล้อม ประเด็นมลพิษเป็นเรื่องของฝุ่นควัน

               อย่าง PM 2.5 ซึ่งจะเป็นปัญหาในเขตเมือง หรือในชนบทบางแห่งที่มีการเผาไร่อ้อย เป็นวิกฤตเพราะจัดการได้ยาก
               เกี่ยวข้องกับแหล่งก าเนิดหลายแหล่ง และหน่วยงานที่จะต้องเข้าไปเกี่ยวข้องก็มีหลายหน่วยงาน อีกทั้ง
               องค์ความรู้เกี่ยวกับเรื่องนี้ในประเทศไทยยังไม่เพียงพอ นอกจากนี้ ขยะก็จะเป็นวิกฤตด้วยเช่นกัน เพราะเป็น
               ปัญหาที่เป็นภัยเงียบที่ทุกคนขาดความตระหนัก

                       ส าหรับประเด็นทรัพยากรธรรมชาติ สรุปว่ามีวิกฤตในเรื่องของทรัพยากรป่าไม้และน้ า พื้นที่ป่าไม้ส่วนใหญ่

               ก าลังถูกบุกรุก ที่รัฐเองยังไม่มีแนวทางในการบริหารจัดการว่าจะเป็นรูปแบบไหน ส่วนทรัพยากรน้ าเป็นวิกฤต
               ตรงที่จะบริหารจัดการได้ยากขึ้น แม้ว่าภาครัฐจะมีการสร้างเขื่อน อ่างเก็บน้ าทั้งขนาดเล็กหรือใหญ่ แต่การ
               บริหารจัดการเพื่อผู้ใช้น้ าแต่ละภาคส่วนทั้งภาคธุรกิจ ภาคประชาชน และภาคอุตสาหกรรมก็จะมีความท้าทาย
               มากขึ้น



                                                           172
   180   181   182   183   184   185   186   187   188   189   190