Page 284 - kpiebook65021
P. 284
โครงการการเสริมสร้างความเข้มแข็งทางด้านสิทธิและการมีส่วนร่วมแก่ประชาชน: กรณีศึกษาการพัฒนานโยบายจากภาคประชาชน จังหวัดจันทบุรี
9.2 ตัวแบบกำรเสริมสร้ำงสิทธิและกำรมีส่วนร่วมพัฒนำนโยบำยสำธำรณะจำกภำคประชำชนจังหวัดจันทบุรี
งานวิจัยนี้มุ่งเน้นพัฒนาตัวแบบการเสริมสร้างสิทธิและการมีส่วนร่วมพัฒนานโยบายสาธารณะจาก
ภาคประชาชน โดยมีกรณีศึกษาเป็นพื้นที่จังหวัดจันทบุรี ซึ่งตัวแบบที่พัฒนาขึ้นเบื้องต้นเป็นไปตามกรอบ
แนวคิดในการศึกษาครั้งนี้ (ดังภาพ 2.2 กรอบแนวคิดในการวิจัย) อันประกอบด้วยกระบวนการสร้างความ
เข้าใจ กระบวนการรวบรวมความต้องการ และกระบวนการพัฒนาข้อเสนอทิศทาง ในส่วนนี้เป็นการอภิปราย
ว่ามีปัจจัยหรือเงื่อนไขใดที่ส่งเสริมต่อการใช้สิทธิและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนานโยบาย
สาธารณะ ตามตัวแบบที่ประกอบด้วยสามกระบวนการกับสามภาคส่วน ดังต่อไปนี้
กระบวนการสร้างความเข้าใจ
กระบวนการสร้างความเข้าใจเป็นการออกแบบที่คณะผู้วิจัยเป็นหน่วยประสานเข้าพบภาคส่วนที่เป็น
ภาคราชการ ภาคประชาชน และองค์กรวิชาการในพื้นที่เพื่อท าความเข้าใจและปรึกษาหารือร่วมกันถึง
เป้าหมายเชิงเนื้อหาและและกระบวนการของการวิจัยเพื่อส่งเสริมสิทธิและการมีส่วนร่วมของประชาชนฯ
ประเด็นปรึกษาหารือ ได้แก่ ความท้าทายเกี่ยวกับภาคประชาชนในจังหวัด และแนวทางการสร้างความเป็น
หุ้นส่วนในการพัฒนาตัวแบบร่วมกัน
ภาครัฐในกระบวนการนี้ ได้แก่ ส านักงานจังหวัดจันทบุรี องค์การบริหารส่วนจังหวัดจันทบุรี ทั้งสอง
หน่วยงานต่างมีมุมมองที่ส่งเสริมสิทธิและการมีส่วนร่วมของประชาชนในการพัฒนานโยบายสาธารณะ และ
พร้อมสนับสนุนโครงการวิจัยนี้ อันสอดคล้องกับรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยมาตรา 43 ที่รับรองสิทธิ
ของชุมชนในการจัดการและใช้ประโยชน์ทรัพยากรรวมถึงสามารถเข้าชื่อเพื่อเสนอแนะต่อการด าเนินงานของ
หน่วยงานรัฐ อีกทั้งยังสอดคล้องกับการมีส่วนร่วมของประชาชนในหมวดว่าด้วยการท าหน้าที่ของรัฐตาม
มาตรา 57(1) ที่รัฐต้องจัดให้มีพื้นที่สาธารณะให้ประชาชนมีส่วนร่วม มาตรา 78 ให้ประชาชนมีส่วนร่วมพัฒนา
ประเทศ และมาตรา 253 ที่ท้องถิ่นต้องมีกลไกให้ประชาชนมีส่วนร่วม แสดงว่า นโยบายและกฎระเบียบในเชิง
ของเจตนารมย์ มุมมองการพัฒนา และการสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐถือเป็นปัจจัยบวกต่อการส่งเสริม
สิทธิและการมีส่วนร่วมในการพัฒนานโยบายสาธารณะส าหรับกระบวนการสร้างความเข้าใจและเครือข่าย
ประชาชนในจังหวัดจันทบุรี
องค์กรวิชาการ ได้แก่ เครือข่ายนักวิชาการในพื้นที่จังหวัดจันทบุรีที่มีความเข้าใจในบริบทพื้นที่เป็น
อย่างดี ทั้งยังให้การสนับสนุนในการสร้างความเข้าใจต่อภาคประชาชนผู้ให้ข้อมูล สอดคล้องกับถวิลวดี บุรีกุล
และคณะ (2563) ที่ว่าองค์กรวิชาการสามารถท าหน้าที่สนับสนุนกระบวนการนโยบายสาธารณะ ดังนั้น องค์กร
วิชาการที่มีความเข้าใจพื้นที่และสามารถสนับสนุนเชื่อมโยงไปถึงภาคประชาชนได้ ถือเป็นเงื่อนไขความส าเร็จ
ในกระบวนการสร้างความเข้าใจ
ภาคประชาชน ได้แก่ ตัวแทนกลุ่มอาชีพต่าง ๆ ซึ่งไม่ได้เข้ามาสู่กระบวนการสร้างความเข้าใจ
เนื่องจากภาคประชาชนในการศึกษาครั้งนี้ได้รับการติดต่อเฉพาะแกนน าบางท่านเพื่อสร้างความเข้าใจเบื้องต้น
แต่ต้องหยุดชะงักไปก่อนด้วยสถานการณ์โรคระบาด กระบวนการท าความเข้าใจของวัตถุประสงค์และ
กระบวนการก่อนการรวบรวมข้อมูลกับภาคประชาชนที่เป็นแกนน าจึงเป็นการอธิบายผ่านเอกสารที่มีความเป็น
254