Page 81 - kpiebook64015
P. 81

และอยู่ภายใต้ความรับผิดชอบของพรรค โดยรวมทั้งรายงานการบริจาคและการกู้เงิน แต่ไม่ใช่รายบัญชีรายรับ

              รายจ่ายประจำปีของพรรคเท่านั้น  ยิ่งกว่านั้น การสนับสนุนจากสาธารณะในระดับปานกลางบ่งชี้ว่าผู้ปฏิรูป
              กฎหมายยังไม่ได้ให้ความสนใจเพียงพอต่อคำถามเกี่ยวกับการได้เงินจากวิธีการหรือแหล่งอื่นๆ เพราะเพียงการ

              กำหนดขอบเขตของการใช้จ่ายและการกำหนดให้ต้องเปิดเผยนั้นได้ละเลยความจำเป็นที่จะต้องจัดหาทุนที่เพียงพอ

              ให้กับการดำเนินกิจกรรมของพรรค  ดังนั้น ภายใต้กฎข้อบังคับที่เป็นอยู่ในขณะนี้ เป็นไปได้อย่างมากว่า วิกฤตเรื่อง
              การเงินของพรรคจะเกิดขึ้นอีกอย่างแน่นอนในอนาคตอันใกล้  IDEA หวังว่า จะสามารถแก้ปัญหาที่เกิดขึ้นได้เร็วพอ

              อย่างในกรณี “วิกฤตการกู้เงิน” (loan crisis) ที่เกิดขึ้นในสหราชอาณาจักร (และรัฐสภาได้ออกพระราชบัญญัติอุด

              ช่องโหว่และเพิ่มเติมรายละเอียดภายในสี่เดือนหลังจากที่สาธารณะรับรู้เรื่องราวที่เกิดขึ้น/ผู้วิจัย)  โดยคงต้องรอดู
              ประสิทธิภาพการทำงานของคณะกรรมการการเลือกตั้งของสหราชอาณาจักร (ECUK) เพราะได้มีการให้อำนาจเพิ่ม

              แก่คณะกรรมการการเลือกตั้งฯผ่าน PPEA ในปี ค.ศ. 2009
                                                               119
                     การแก้ปัญหาความไม่สุจริตทางการเงินและการรวมศูนย์อำนาจภายในพรรคการเมืองก็คงไม่ต่างจากการ

              แก้ปัญหาทุจริตในการเลือกตั้ง นั่นคือ จะต้องมีการแก้ไขปรับปรุงกฎหมายให้มีประสิทธิภาพและเท่าทันต่อ

              พฤติกรรมการฉ้อฉลของนักการเมืองอยู่ตลอดเวลา   อย่างเช่นในเรื่องการทุจริตซื้อเสียงเลือกตั้ง   มีนักการเมืองไทย
              จำนวนไม่น้อยให้ความเห็นว่า การซื้อขายเสียงในการเลือกตั้งของไทยเรานั้นถือเป็นลักษณะโดดเด่นและเป็น

              วัฒนธรรมที่คงแก้ไม่ได้  อย่างไรเสียก็ต้องซื้อขายเสียงกันต่อไป ไม่ควรออกกฎหมายลงโทษรุนแรงถึงขนาดยุบพรรค
              กัน แต่ถ้าย้อนไปดูการเลือกตั้งของอังกฤษในช่วง 195 ปีแรกหลังจากเปลี่ยนแปลงการปกครอง จะพบว่า อังกฤษมี

              ปัญหาการซื้อสิทธิขายเสียงกันอย่างหนักและมีการใช้ความรุนแรงด้วย ดังข้อความที่ปรากฏในหนังสือ

              “Parliamentary Reform: 1785-1928”  เป็นตำราที่ใช้เรียนในระดับมัธยมของอังกฤษ ผู้แต่งคือ Sean
              Lang  ตีพิมพ์ปี ค.ศ. 1999  หน้า 82: “..elections could still be very violent affairs and were often as

              brazenly corrupt as ever---indeed, some thought the Ballot Act  made them more corrupt rather

              than less, since the more venal voters (venal แปลว่า ทำอะไรก็ได้เพื่อเงิน)  could now accept bribes
              from both parties without either knowing how they actually voted.”

                     จะเห็นได้ว่า อังกฤษก็มีปัญหาการซื้อขายเสียงอย่างหนักมาก่อน แม้ว่าในศตวรรษที่สิบเก้า จะมีคนอังกฤษ

              และนักการเมืองอังกฤษจำนวนไม่น้อยมีความคิดเห็นไม่ต่างกับคนไทยและนักการเมืองไทยในปัจจุบันว่า  การทุจริต
              ซื้อเสียงในอังกฤษเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้และจะต้องเป็นเช่นนี้ต่อไป แต่ก็มีคนอังกฤษและนักการเมืองอังกฤษอีกฝั่ง

              หนึ่งที่ไม่ยอมรับ และหาทางต่อสู้แก้ไขปัญหาดังกล่าวนี้ เช่น มีการออกกฎหมายในปี ค.ศ.1883 (the Corrupt
              Practices Act) โดยมีบทโทษทั้งจำคุกและทั้งปรับอย่างรุนแรง รวมทั้งในช่วงเวลาที่ถูกคุมขังอยู่นั้น  นักโทษจะถูก

              ลงโทษให้ทำงานใช้แรงงานอย่างหนัก ดังที่ผู้วิจัยได้กล่าวไปแล้วข้างต้น



              119   Funding of Political Parties and Election Campaigns A Handbook on Political Finance,  Elin Falguera
              Samuel Jones Magnus Ohman, eds., International Institute for Democracy and Electoral Assistance  (IDEA),
              (Sweden: 2014), p. 286.






                                                            81
   76   77   78   79   80   81   82   83   84   85   86