Page 85 - kpiebook64015
P. 85

ของประวัติศาสตร์การเมืองของประเทศของท่านเอง แต่ผู้วิจัยก็คาดว่าเขาก็ย่อมต้องรู้ดีว่า จอร์จ วอชิงตันก็ยังให้

              ลูกน้องไปซื้อเหล้ามาซื้อเสียงผู้ลงคะแนน (Washington spent his entire campaign budget, 50 pounds, on
              160 gallons of liquor served to 391 voters. [Yes, the Founding Fathers drank heavily, especially

              when they had to vote.]  Buying votes with booze was already a custom in England. Washington

              also was following a Virginia tradition where barrels of liquor were rolled to courthouse lawns
              and polling places on Election Day.   https://constitutioncenter.org/blog/booze-on-election-day-

              was-an-american-tradition/)  และประธานาธิบดีอับราฮัม ลินคอล์นแอบซื้อสื่อหนังสือพิมพ์มาเป็นของตัวเอง

              และใช้ให้สื่อหนังสือพิมพ์เขียนเชียร์ตัวเองโดยไม่เปิดเผยให้สาธารณะรู้ (They don’t know that Lincoln owned
              his own newspaper at one point—a German language newspaper no less (and that he managed

              to hide it from his contemporaries and most biographies). They don’t know the time he spent
              reviewing and typesetting his famous Cooper Union speech the night before with journalists—

              knowing  how  it  would  launch  his  political  career  or  more  famously,  how  he  designed  the

              Gettysburg address not for the crowd—who was actually quite underwhelmed by it—but to play
              well for the newswires. They’ve certainly never heard of the jobs, leaks, advertising dollars and

              access  to  crucial  telegraph  lines  Lincoln  dangled  in  order  to  get  what  he  needed.
              https: / / observer. com/ 2014/ 11/ abraham-lincoln-as-media-manipulator-in-chief-the-150-year-

              history-of-corrupt-press/)  และจากตัวอย่างของนักการเมืองสองท่านของสหรัฐฯและอาจจะรวมตัวอย่างของ

              นักการเมืองไทยด้วย ทำให้เราเข้าใจคำของท่านทูตที่ว่า “ประชาธิปไตยบางครั้งยุ่งเหยิงและท้าทาย และทุกๆ
              ประเทศก็ต้องมีบางสิ่งบางอย่างที่ต้องแก้ไขให้ลุล่วงไป”  เพราะต่อมา สหรัฐฯก็ได้ออกกฎหมายห้ามซื้อเสียงที่

              เข้มงวดขึ้นและห้ามซื้อสื่อหรือเป็นเจ้าของสื่อ   อันเป็นกฎหมายที่บ้านเราเพิ่งมีมาไม่นานมานี้  สหรัฐฯก็ห้ามไม่ให้กู้

              เอกชนเกินจำนวนที่กำหนดไว้  บ้านเราก็ไม่ให้ เพียงแต่บ้านเขาโทษแรงสุดคือปรับ แต่ของเรายุบพรรค คำถามคือ
              การตั้งพรรคการเมืองบ้านเรากับบ้านเขาอันไหนมันยากง่ายกว่ากัน เขาหรือเราจริงจังกว่ากันที่จะให้พรรคการเมือง

              มาจากฐานประชาชนจริงๆ ?  แล้วความได้เปรียบที่กู้เงินหัวหน้าพรรคไปใช้ในการเลือกตั้งจนทำให้ได้ ส.ส. บัญชี

              รายชื่อมามากมายกว่าพรรคที่ไม่เงินส่งผู้สมัครครบทุกเขต เพราะไม่รู้ว่ากู้หัวหน้าพรรคได้มากขนาดนั้น หรือไม่มี
              หัวหน้าพรรคเป็นมหาเศรษฐี ที่ให้กู้ด้วยอัตราดอกเบี้ยที่ต่ำกว่าการกู้เชิงพาณิชย์ทั่วไป และเมื่อไม่ชำระดอกเบี้ยราย

              เดือนตามสัญญา ก็ไม่มีการปรับแต่อย่างไร และแถมเปลี่ยนสัญญากู้จากการชำระดอกเบี้ยรายเดือนมาเป็นรายปีให้
              ซึ่งก็ไม่รู้ว่า ถ้ารายปี (ซึ่งในขณะที่เป็นคดีความยังไม่ครบปีตามสัญญาที่เปลี่ยนแปลงเงื่อนไขการชำระดอกเบี้ย) ไม่มี

              เงินชำระดอกเบี้ยตามสัญญา จะมีการผ่อนผันอย่างไรเกิดขึ้นอีก  ซึ่งในรายละเอียดของการกู้และการเปลี่ยนแปลง
              สัญญาชำระดอกเบี้ย ขอให้ผู้อ่านได้อ่านคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญฉบับเต็มโดยละเอียดที่ผู้วิจัยได้ใส่ไว้ใน

              ภาคผนวก  ความได้เปรียบที่พรรคอนาคตใหม่กู้เงินหัวหน้าพรรคไปใช้ในการเลือกตั้งจนทำให้ได้ ส.ส. บัญชีรายชื่อ

              มามากมายกว่าพรรคที่ไม่เงินส่งผู้สมัครครบทุกเขตนี้  การชดเชยความเสียเปรียบที่เกิดขึ้นนี้จะทำอย่างไร ?








                                                            85
   80   81   82   83   84   85   86   87   88   89   90