Page 87 - kpiebook64015
P. 87

และการทุจริตคอร์รัปชั่นผลประโยชน์ทับซ้อนได้  แต่การที่พรรคการเมืองรับเงินอุดหนุนจากรัฐเป็นจำนวนมาก ก็

              ย่อมจะเข้าข่าย “cartel party” อย่างที่กล่าวไปข้างต้น
                     แต่ไม่ว่าพรรคการเมืองจะได้รับเงินจากทางไหน สิ่งสำคัญก็คือ จะต้องอยู่ภายใต้หลักการที่ป้องกันไม่ให้เกิด

              การทุจริตคอร์รัปชั่น ผลประโยชน์ทับซ้อนและการรวมศูนย์อำนาจภายในพรรคจนสมาชิกพรรคขาดความเป็นอิสระ

              แม้ว่า  วิธีการที่ดีที่สุดในการป้องกันการพึ่งพาแหล่งทุนเอกชนที่เป็นเงื่อนไขที่ทำให้นักการเมืองที่เป็นสมาชิกพรรค
              ต้องอยู่ภายใต้เงื่อนไขของการต้องตอบแทนบุญคุณ คือ กองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองจากรัฐ   แต่ก็เป็นไปได้

              ด้วยว่าเงินจากกองทุนเพื่อการพัฒนาพรรคการเมืองอาจจะไม่เพียงพอเหมือนที่พรรคการเมืองในสวีเดนได้รับ

              อุดหนุนจากรัฐ แต่การได้รับเงินอุดหนุนที่ไม่เพียงพอจะทำให้มีความชอบธรรมที่จะกู้ยืมเงินหัวหน้าพรรคที่ยากที่จะ
              ปฏิเสธถึงการสูญเสียความเป็นอิสระของสมาชิกพรรคหรือ ?

                     ประเด็นเหล่านี้จะยังคงเป็นปัญหาในทางการเมืองระบบตัวแทนอยู่ต่อไปอีกนาน ไม่เฉพาะประเทศไทยแต่
              รวมถึงประเทศอื่นๆด้วย แต่กระนั้น กรอบสำคัญที่เป็นบรรทัดฐานสำคัญต่อการกำหนดทิศทางในการแก้ไขปัญหา

              ต่างๆเหล่านี้ ย่อมเป็นอย่างที่ผู้วิจัยได้กล่าวย้ำอยู่เสมอว่า หนึ่ง ทุกประเทศที่ประชาธิปไตยพัฒนาแล้วล้วนออก

              กฎหมายมาควบคุมการเงินของพรรคการเมืองทั้งสิ้น ประเทศเหล่านี้เป็นประเทศที่ปกครองโดยกฎหมายจารีต
              ประเพณีและมีวัฒนธรรมของประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่เหมือนกันและเป็นประเทศที่มีระดับการพัฒนาทาง

              เศรษฐกิจและการพัฒนาทางการเมืองที่อยู่ในระดับเดียวกัน อันได้แก่ สหรัฐอเมริกา สหราชอาณาจักร นิวซีแลนด์
              แคนาดา และออสเตรเลีย  แม้จะมีมาตรการทางกฎหมายในการควบคุมพรรคการเมืองที่แตกต่าง แต่กระนั้น ก็มี

              แนวโน้มที่เพิ่มขึ้นเหมือนกันทุกประเทศ

                     สอง การออกกฎหมายเพื่อควบคุมสถานะและการดำเนินกิจกรรมต่าง ๆ ของพรรคการเมืองในฐานะตัว
              แสดงสำคัญของระบอบประชาธิปไตยแบบตัวแทนที่แตกต่างกันในห้าประเทศ  เกิดจากการที่ผู้บัญญัติกฎหมายและ

              ผู้พิพากษาที่ตีความตัวบทกฎหมายของแต่ละแห่งมีชุดปทัสถานเกี่ยวกับระบอบประชาธิปไตยตัวแทนและการทำ

              หน้าที่ของตัวแทนที่แตกต่างกัน ส่งผลให้การจัดวางตำแหน่งแห่งที่และการออกมาตรการควบคุมพรรคการเมืองใน
              แต่ละประเทศมีความแตกต่างกันตามไปด้วย  แต่แม้ว่าจะมีความแตกต่างกันในรายละเอียดตามเงื่อนไขบริบทของ

              แต่ประเทศ

                     ดังจะเห็นได้ว่า จะมีความแตกต่างระหว่างประเทศที่ใช้รัฐธรรมนูญจารีตประเพณีกับประเทศที่ใช้
              รัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร  ซึ่งในประเทศที่ใช้รัฐธรรมนูญจารีตประเพณีจะมีการออกกฎหมายพรรคการเมืองที่

              ล่าช้ากว่า เพราะอิงอยู่จารีตประเพณีและสำนึกทางการเมืองมากกว่ากฎหมายที่เป็นลายลักษณ์อักษณ แต่ถึงกระนั้น
              เมื่อถึงจุดหนึ่ง จะพบว่า มีความจำเป็นที่จะต้องออกกฎหมายพรรคการเมืองที่เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อให้เกิดความ

              ชัดเจนและสามารถป้องกันมิให้เกิดความคลุมเครือที่อาจเป็นช่องโหว่ที่จะนำไปสู่การทุจริตคอร์รัปชั่นและการกระทำ
              ที่เป็นผลประโยชน์ทับซ้อน และแน่นอนว่า สำหรับประเทศที่ใช้รัฐธรรมนูญลายลักษณ์อักษร ย่อมจะต้องมีการออก

              กฎหมายให้ทันสมัยอยู่ตลอดเวลาเพื่อรองรับการ “เลี่ยงบาลี” และ “การหาช่องโหว่” ทางกฎหมายหรือแม้กระทั่ง

              “ความเข้าใจกฎหมายผิดโดยสุจริตใจ”








                                                            87
   82   83   84   85   86   87   88   89   90   91   92