Page 76 - kpiebook64015
P. 76

รายรับทั้งสิ้น 21,000,000 บาท รายจ่ายทั้งสิ้น 29,241,192.07 บาท,พรรคอนาคตใหม่ รายงานรายรับทั้งสิ้น

              27,000,000 บาท รายจ่ายทั้งสิ้น 32,252,377.70 บาท, พรรคเสรีรวมไทย รายงานรายรับทั้งสิ้น 35,001,000 บาท
              รายจ่ายทั้งสิ้น 21,497,077.89 บาท, พรรคเพื่อชาติ รายงานรายรับทั้งสิ้น 5,000,000 บาท รายจ่ายทั้งสิ้น

              3,842,273 บาท, พรรคประชาชาติ รายงานรายรับทั้งสิ้น 2,140,000 บาท รายจ่ายทั้งสิ้น 3,110,395.72 บาท,

              พรรคเศรษฐกิจใหม่ รายงานรายรับทั้งสิ้น 1,701,104.25 บาทรายจ่ายทั้งสิ้น 4,043,204 บาท และพรรคพลังปวง
              ชนไทย รายงานรายรับทั้งสิ้น 532,870 บาท รายจ่ายทั้งสิ้น 2,704,354.06 บาท ส่วนพรรคฝ่ายค้านอิสระ

              ประกอบด้วย พรรคไทยศรีวิไลย์ รายงานรายรับทั้งสิ้น 1,060,000 บาท รายจ่ายทั้งสิ้น 1,307,903.30 บาท, พรรค

              ประชาธรรมไทย รายงานรายรับทั้งสิ้น 1,526,340 บาท รายจ่ายทั้งสิ้น 1,460,340 บาท
                     จากข้างต้น จะเห็นได้ว่า ในระบบการเลือกตั้งและพรรคการเมืองของไทย ถือว่ารัฐได้ให้เงินสนับสนุนพรรค

              การเมืองเป็นจำนวนที่สูงมาก  จึงทำให้น่าสังเกตเกี่ยวกับความเป็นไปได้ในการควบคุมการเงินของพรรคการเมือง
              เพื่อให้เกิดความเป็นธรรมแก่ทุกฝ่ายที่ลงสนามเลือกตั้ง ส่วนในกรณีของเงินบริจาค จะพบว่า เงินบริจาคจำนวน

              มหาศาลและการสนับสนุนช่วยเหลือต่างๆจากบริษัทถือเป็นเรื่องที่อาจจะเป็นอันตรายสำหรับกระบวนการทาง

              การเมืองแบบประชาธิปไตย  ดังนั้น รัฐต่างๆจึงได้ออกกฎหมายในรูปแบบต่างๆเพี่อป้องกันหรือจำกัดโอกาสความ
              เป็นไปได้ที่บริษัทเอกชนหรือปัจเจกบุคคลที่มั่งคั่งจะมีอิทธิพลในทางการเมืองผ่านการบริจาคหรือการอุดหนุน

              ช่วยเหลือต่างๆต่อพรรคการเมือง และได้ออกมาตรการทีจะทำให้พรรคการเมืองยังคงสามารถรักษาความเป็นอิสระ
              จากผลประโยชน์ส่วนตัวของคนรวยไม่กี่คน มาตรการดังกล่าวคือการการกำหนดรายได้ส่วนตัวที่พรรคและผู้สมัครจะ

                                                       116
              สามารถรับได้ ทั้งในเชิงปริมาณและในเชิงคุณภาพ
                     ดังนั้น จากเงื่อนไขของความจำเป็นในการต้องมีเงินทุนสำหรับการดำเนินกิจกรรมทางการเมือง เราจึงไม่
              ค่อยจะเห็นพรรคคนจนมีบทบาทอะไรมากนักในทางการเมืองไทย  เพราะการจะมีบทบาท ต้องมีทุนมากพอที่จะใช้

              ไปกับสื่อกับการบริหารจัดการโซเชียลมีเดีย และการเดินสายไปที่ต่างๆในประเทศหรือต่างประเทศ หรือแม้กระทั่ง

              จ้างนายหน้าต่างประเทศไว้ติดต่อประสานงาน เอาแค่คนจนที่ไม่คิดเล่นการเมืองก็ยังจะไม่สามารถดำรงชีวิตปกติได้
              อยู่แล้ว  ทั้งตัวเองและครอบครัว  และด้วยเหตุนี้ เวลาเปิดเผยบัญชีทรัพย์สินของนักการเมืองที่มีทรัพย์สินเป็น

              จำนวนมาก จึงเป็นที่ไม่น่าประหลาดใจ  อย่างไรก็ตาม ในฐานะนักรัฐศาสตร์ ผู้วิจัยก็ยังยืนยันว่า เห็นด้วยที่พรรค

              การเมืองควรกู้เงินได้กับสถาบันการเงิน เพราะเวลาใครไปกู้ธนาคาร ก็ไม่ได้รู้สึกว่าเป็นหนี้บุญคุณธนาคาร และ
              ธนาคารก็ไม่ได้จะเมตตาโอนอ่อนผ่อนปรนยามที่เราไม่มีปัญญาส่งดอกเพราะต้องว่ากันไปตามเนื้อผ้า

                     ที่ผ่านมา จะไม่ค่อยจะได้ยินข่าวว่า พรรคการเมืองก่อนหน้าพรรคอนาคตใหม่ไปกู้เงินใครหรือสถาบัน
              การเงินที่ไหน ก็ให้น่าสงสัยว่า พรรคเหล่านั้นเอาเงินที่ไหนมาใช้จ่ายในกิจกรรมทางการเมืองของพรรค แต่ผู้คนก็

              มักจะมองไปที่ “นายทุนพรรค”  ซึ่งคนที่เป็นนายทุนพรรคก็มีทั้งที่เป็นหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรค หรือไม่



              116  Funding of Political Parties and Election Campaigns A Handbook on Political Finance,  Elin Falguera
              Samuel Jones Magnus Ohman, eds., International Institute for Democracy and Electoral Assistance  (IDEA),
              (Sweden: 2014), p. 218.






                                                            76
   71   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81