Page 41 - kpiebook63012
P. 41
41
อาจกล่าวได้ว่าการเปลี่ยนแปลงระบบเลือกตั้งไม่ใช่ปัจจัยเดียวที่ก่อให้เกิดระบบพรรคการเมือง
แบบ 2 พรรค หรือหลายพรรค แต่ระบบเลือกตั้งสามารถก่อให้เกิดการปรับตัวในระบบพรรคการเมืองและ
การจัดการกลุ่มในสังคมการเมืองที่แตกต่างไปจากเดิมได้ โดยทั่วไประบบเลือกตั้งแบบเสียงข้างมากธรรมดา
ในเขตเลือกตั้งที่มีตัวแทนได้คนเดียว (Plurality-Single Member Districts) จะไม่เอื้อให้พรรคการเมืองเล็ก ๆ
ก่อตั้งขึ้นมาใหม่ เพราะพรรคที่จะชนะเลือกตั้งจะต้องได้คะแนนเสียงค่อนข้างมาก ทำาให้พรรคขนาดเล็กแข่งขัน
ได้ยาก ในกรณีเช่นนี้อาจกลายเป็นแรงจูงใจให้พรรคการเมืองขนาดเล็กรวมตัวกันเพื่อขยายฐานเสียงในการ
แข่งขัน ในขณะที่ระบบเลือกตั้งที่เขตเลือกตั้งหนึ่งมีตัวแทนได้หลายคน พรรคเล็ก ๆ จะสามารถชนะการเลือกตั้ง
บางส่วนได้ด้วยคะแนนเสียงไม่ต้องมาก จึงสามารถดำารงอยู่ได้โดยไม่ต้องกระตือรือร้นขยับขยาย กล่าวอย่างชัดเจน
ก็คือระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วน หรือแบบที่ใช้เขตเลือกตั้งขนาดใหญ่โดยไม่ได้กำาหนดเกณฑ์ขั้นตำ่าจะทำาให้ระบบ
การเมืองมี “จำานวนพรรคการเมืองที่มีนัยสำาคัญ” (Effective Number of Parties) มากขึ้น
2) กติกาการเลือกตั้งส่งผลต่อองค์กรพรรค และการจัดทำายุทธศาสตร์ (Strategies) ของพรรคการเมือง
อิทธิพลของระบบเลือกตั้งประการนี้ที่มาจากฐานคติที่ว่า ในระบบเลือกตั้งแบบสัดส่วนที่เขตเลือกตั้งมีขนาดใหญ่
พรรคมีแนวโน้มที่จะต้องแสดงจุดยืนเชิงอุดมการณ์ หรือนโยบายที่ชัดเจนกว่าในระบบเลือกตั้งที่เขตเลือกตั้ง
มีขนาดเล็ก เช่นนี้จะกระตุ้นให้พรรคต้องสร้างองค์กรที่มีความเข้มแข็ง แต่หากผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งสามารถเลือก
ผู้สมัครที่แข่งขันกันเองภายในพรรคเดียวกันได้ อาจส่งผลให้ระบบพรรคการเมืองอ่อนแอได้ เพราะผู้สมัครจาก
พรรคเดียวกันต้องแข่งขันกันเอง ในระบบเขตเลือกตั้งมีขนาดเล็กแบบหนึ่งเขตหนึ่งคน ความจำาเป็นที่พรรค
จะสร้างองค์กรให้มีความเข้มแข็งมีน้อยกว่าในระบบบัญชีรายชื่อ เพราะเขตเลือกตั้งขนาดเล็กเป็นระบบที่เน้น
คุณสมบัติเฉพาะตนของผู้สมัคร (Candidate Centered)
นักรัฐศาสตร์โดยมากให้ความเห็นสนับสนุนระบบเลือกตั้งที่เอื้อให้พรรคการเมืองพัฒนาอุดมการณ์
ความคิด และนโยบายที่ตอบสนองรองรับผลประโยชน์ของประชาชนอย่างกว้างขวาง มากกว่าระบบเลือกตั้งที่
ส่งเสริมให้พรรคเน้นแสวงหาฐานเสียงท้องถิ่น หรือกลุ่มแคบ ๆ เช่น กลุ่มศาสนา เชื้อชาติ วัฒนธรรม นอกจากนี้
พรรคการเมืองควรสามารถเป็นตัวแทนที่สะท้อนความคิดเห็นที่เป็นภาพรวมของชาติมากกว่าของภูมิภาค หรือ
กลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง
3) อิทธิพลของระบบเลือกตั้งต่อการตัดสินใจลงคะแนนเสียงของประชาชนเหตุผลหรือพฤติกรรมใน
การตัดสินใจเลือกตั้งที่น่าสนใจคือ การตัดสินใจเลือกระหว่างผู้สมัคร/พรรคการเมืองที่ตนเองชื่นชอบกับผู้สมัคร/
พรรคการเมืองที่มีโอกาสชนะเลือกตั้ง ตัวอย่างเช่น ในระบบเลือกตั้งแบบเสียงข้างมากธรรมดาเขตเดียวคนเดียว
ผู้เลือกตั้งชื่นชอบนาง ก. มากกว่านาย ข. และนาย ข. มากกว่านาย ค. เมื่อเห็นว่านาง ก. มีคะแนนนิยมตำ่าและ
โอกาสชนะ (Viability) การเลือกตั้งน้อย จะเปลี่ยนใจไปลงคะแนนให้นาย ข. ซึ่งมีแนวโน้มที่จะชนะมากกว่า
หรือไม่ หากเลือกนาง ก. แสดงว่าเลือกจากความชอบจริง ๆ แต่หากเลือกนาย ข.จะเป็นการเลือกด้วยกลยุทธ์
(strategic/tactical voting) ที่ไม่ต้องการให้คะแนนเสียงของตนสูญเปล่า (wasted vote) การตัดสินใจทางใด