Page 108 - kpiebook63011
P. 108
108 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดเชียงใหม่
จำานวนมาก จากฐานข้อมูลของ กกต. พบว่าในระดับประเทศมีพรรคการเมืองจำานวน 106 พรรคการเมือง
(สำานักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง, 2562) แบ่งเป็นพรรคการเมืองเดิม จำานวน 60 พรรค และ
พรรคการเมืองใหม่ จำานวน 46 พรรค และพรรคการเมืองที่ลงสนามเลือกตั้งปี 2562 มีจำานวนทั้งสิ้น 81 พรรค
(iLaw, 2562) พรรคการเมืองทุกพรรคจึงต้องออกหาเสียงเพื่อโกยคะแนนจากพื้นที่ให้แก่พรรคแม้จะไม่ชนะ
ในเขตเลือกตั้งก็ตาม หรือแม้แต่ไม่ใช่เขตเลือกตั้งที่ตนเองมีฐานเสียงมาก่อน ตัวอย่างเช่น การรณรงค์หาเสียง
เลือกตั้งในจังหวัดเชียงใหม่ของพรรคประชาธิปัตย์ ที่แกนนำาพรรคหลายคนมาช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งรณรงค์
หาเสียงบ่อยครั้ง รูปแบบการหาเสียงเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์สามารถมองได้เป็น 2 ส่วนคือ 1) การหาเสียง
โดยหัวหน้าหรือแกนนำาพรรคที่มาหาเสียงในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ และ 2) การหาเสียงของผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์
ในจังหวัดเชียงใหม่ ในภาพรวมของพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดเชียงใหม่นั้น พบว่า พรรคประชาธิปัตย์ไม่มี
คะแนนนิยมในนามของพรรคมากนัก แต่คะแนนของพรรคประชาธิปัตย์จะเป็นคะแนนที่ให้กับตัวบุคคลที่เป็น
ผู้สมัครในนามพรรคประชาธิปัตย์มากกว่า เนื่องจากผู้สมัครรับเลือกตั้งของพรรคประชาธิปัตย์ในจังหวัดเชียงใหม่
ทุกคนมีประสบการณ์เคยร่วมการทำางานการเมืองท้องถิ่นหรือทำางานกับชุมชนมาก่อน แต่มีเพียงบางคนที่เคย
มีประสบการณ์ในการลงสมัครรับเลือกตั้งทั้งในระดับชาติและระดับท้องถิ่น ประเด็นในการหาเสียงของพรรค
ประชาธิปัตย์มองได้ 2 แนวทางหลัก คือ 1) การเน้นนโยบายรายได้กับการท่องเที่ยวของเขตเมืองเชียงใหม่และ
2) นโยบายด้านสวัสดิการ ที่ทำากิน รวมไปถึงเรื่องเกี่ยวกับโฉนดที่ดินของเกษตรกร ซึ่งเป็นแนวนโยบายของพื้นที่
รอบนอกตัวเมืองเชียงใหม่
การเข้าถึงมวลชนผ่านการรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งผ่านวิถีวัฒนธรรมเป็น
สิ่งที่สำาคัญสำาหรับการเมืองในระดับภูมิภาค ในช่วงการหาเสียงเลือกตั้งพบว่าหัวหน้าพรรค แกนนำาพรรคการเมือง
ผู้สมัคร ส.ส.มีการใช้ภาษาท้องถิ่นและการแต่งกายตามวัฒนธรรมในพื้นที่ การแสดงสัญลักษณ์ของความเป็นกลุ่ม
พวกเดียวกันผ่านการแต่งกายและภาษา ปรากฏให้เห็นในการหาเสียงของทุกพรรคการเมือง เช่น พรรคอนาคตใหม่
ที่หัวหน้าพรรคมีการเชื่อมโยงความสัมพันธ์กับคนในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่ในฐานะเขยเชียงใหม่ นายอภิสิทธิ์
เวชชาชีวะ หัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ใส่เสื้อผ้าทอชนเผ่าและพูดภาษาท้องถิ่นทักทายกับประชาชนที่มาฟัง
ปราศรัย ในขณะที่นโยบายของพรรคในการหาเสียงเลือกตั้งก็จะเป็นไปตามบริบททางการเมืองของพื้นที่ด้วย
เช่น พรรคเพื่อไทยและพรรคอนาคตใหม่มีการจัดกลุ่มเสวนาแก้ปัญหาเรื่องของปัญหาหมอกควันและฝุ่น PM 2.5
พรรคประชาธิปัตย์ซึ่งมักมองว่าคือพรรคของคนภาคใต้ แต่เมื่อมาหาเสียงที่ภาคเหนือ การนำาเสนอประเด็นและ
ข้อมูลในการหาเสียงเพื่อให้ได้คะแนนเสียงก็นำาเสนอแนวทางการกระจายอำานาจและการทำาความเข้าใจปัญหา
การเกษตร เช่น ราคาลำาไย ภาพรวมของการปราศรัยหาเสียงของพรรคประชาธิปัตย์กล่าวได้ว่า เน้นเรื่องการแก้ไข
ปัญหาความยากจนและมุ่งเป้าหมายไปที่กลุ่มเกษตรกรเป็นหลัก แม้บทบาทของแกนนำาพรรคและผู้บริหารพรรค
ที่ระดมกำาลังลงมาในพื้นที่จังหวัดเชียงใหม่เพื่อช่วยผู้สมัครรับเลือกตั้งหาเสียงนับตั้งแต่ก่อนการเลือกตั้งวันที่
24 มีนาคม พ.ศ. 2562 จนกระทั่งวันเลือกตั้งใหม่ 26 พฤษภาคม 2562 แม้จะมีการมองว่าพรรคประชาธิปัตย์
เห็นโอกาสในการชนะการเลือกตั้งในจังหวัดเชียงใหม่ แต่แท้ที่จริงแล้ว ระบบการเลือกตั้งแบบแบ่งสรรปันส่วนผสม
ที่ทำาให้คะแนนเสียงทุกคะแนนถูกเอามานับ ทำาให้พรรคการเมืองไม่ใช่เพียงพรรคของภูมิภาคใดภูมิภาคหนึ่ง
อีกต่อไป แต่พรรคการเมืองต้องให้ความสำาคัญกับทุกภูมิภาคเพื่อทำาให้กวาดคะแนนเสียงให้ได้มากที่สุด