Page 165 - kpiebook63008
P. 165

165







                  บทวิเครำะห์ว่ำด้วยระบบกำรเลือกตั้ง “จัดสรรปันส่วนผสม”


                  กับกำรปรับตัวและกลยุทธ์ทำงกำรเมืองในกำรเลือกตั้งจังหวัด



                  กำญจนบุรี




                          สำาหรับการส่งผู้สมัคร ส.ส. ของพรรคการเมืองในการเลือกตั้งพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรี มีจำานวนรวมทั้งสิ้น
                  34 พรรคการเมือง โดยพรรคที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. ครบทุกเขต (5 เขต) มี 17 พรรค ขณะที่ส่งผู้สมัครฯ 4 เขต

                  มีจำานวน 4 พรรค พรรคที่ส่ง 3 เขต มีจำานวน  2 พรรค พรรคที่ส่ง 2 เขต มีจำานวน 6 พรรค และพรรคที่ส่งผู้สมัคร
                  เพียงเขตเดียว มีจำานวน 5 พรรค ดังแสดงในตาราง 5.2


                          หากพิจารณาจากจำานวนพรรคที่ส่งผู้สมัคร ส.ส. การที่มีพรรคถึง 17 พรรคการเมืองส่งผู้สมัครครบทั้ง

                  5 เขตเลือกตั้งย่อมแสดงให้เห็นถึงเป้าหมายทางการเมืองที่แต่ละพรรคการเมืองได้ทำาการศึกษาและวิเคราะห์ผล
                  จากรูปแบบและระบบการเลือกตั้งที่ออกแบบมาใหม่หลังการทำารัฐประหารของคณะรักษาความสงบเรียบร้อย

                  แห่งชาติ (คสช.)  ซึ่งต่อมาได้มีการยกร่างและประกาศใช้รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยพุทธศักราช 2560
                  โดยเฉพาะกฎหมายเกี่ยวกับการเลือกตั้งของคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ซึ่งมีเป้าหมายสำาคัญคือการ

                  สร้างระบบหลายพรรคการเมืองให้กับการเมืองไทย ทั้งนี้ด้วยผลของการออกแบบระบบการเลือกตั้งที่เรียกว่า
                  “ระบบแบ่งสรรปันส่วนผสม”  กล่าวคือ แบ่งออกเป็นระบบการเลือก ส.ส. เขต ในรูปแบบเขตเดียวเบอร์เดียว
                                          86
                  และบัตรเดียว ขณะเดียวกันก็กำาหนดให้นำาคะแนนที่ประชาชนลงคะแนนไปคิดจำานวน ส.ส. ที่พึงมีของแต่ละ
                  พรรคการเมือง แล้วจึงคำานวณสัดส่วน ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อของพรรคการเมืองที่ได้จัดทำาและยื่นไว้ต่อคณะ

                  กรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ในวันสมัครรับเลือกตั้ง รูปแบบการคิดคะแนนและจำานวน ส.ส.ดังกล่าวจึงมีผลต่อ
                  จำานวน ส.ส.ของพรรคและระบบพรรคการเมืองอันแตกต่างจากรูปแบบและระบบการเลือกตั้งในอดีตที่ผ่านมา

                  ของประเทศโดยสิ้นเชิง พรรคการขนาดใหญ่แต่ละพรรคจึงพยายามที่จะหาทางออกเพื่อรองรับหลักการและ
                  แนวคิดของระบบการคิดคะแนนและจำานวน ส.ส. ที่พึงมีดังกล่าว นำาไปสู่การใช้กลยุทธ์การแยกตัวก่อตั้ง/จัดตั้ง

                  พรรคการเมืองใหม่ของกลุ่มตนเอง และสร้างเครือข่ายของระบบพรรคการเมืองขนาดเล็ก ด้วยทุกคะแนนเสียง
                  ของประชาชนที่ลงให้กับ ส.ส. หรือพรรคการเมืองนั้นมีผลต่อจำานวน ส.ส. ในระบบบัญชีรายชื่อเป็นอย่างมาก

                  นั่นเอง (ดูตาราง 5.3 ประกอบ)







                  86 ระบบและรูปแบบการเลือกตั้งโดยเฉพาะการคิดจำานวน ส.ส.ที่พึงมีดังกล่าวนำามาสู่ข้อโต้แย้งและข้อถกเถียงจำานวนมากของ
                  สังคมทั้งในกลุ่มนักวิชาการ พรรคการเมืองและประชาชนจำานวนมาก หากแต่ กกต. และคณะผู้ร่างกฎหมายเลือกตั้งดังกล่าว
                  รวมถึงกลุ่มผู้สนับสนุนให้ความเห็นว่า เป็นระบบที่เหมาะสมและช่วยรักษาอำานาจทางการเมืองของประชาชน โดยอธิบายว่าจะ
                  ทำาให้ทุกคะแนนเสียงของประชาชนนั้นไม่ตกนำ้าหรือไม่สูญเปล่า เหมือนกับที่ปรากฏในระบบการเลือกตั้งในอดีตที่ผ่านมา
   160   161   162   163   164   165   166   167   168   169   170