Page 72 - kpiebook63006
P. 72

72    การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
                 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสงขลา






                      ระบบเลือกตั้งใหม่ที่เป็นปัจจัยสำาคัญก่อให้เกิดผู้สมัครเป็นจำานวนมากที่สุดในประวัติศาสตร์นี้

             ผู้สมัครบางพรรคได้สะท้อนผลกระทบด้านลบทั้งต่อตัวผู้สมัคร พรรคการเมืองและระบบการเมือง เช่น
             ว่าที่ร้อยตรีเสรีย์ นวลเพ็ง ผู้สมัครพรรคไทยรักษาชาติ เขต 2 (ถูกยุบพรรคเมื่อวันที่ 7 มีนาคม 2562) เห็นว่า

             เป็นระบบเลือกตั้ง ที่ให้ประโยชน์แก่นายทุนพรรคที่ลงสมัครในระบบบัญชีรายชื่อ ในขณะที่คะแนนมาจาก
             ผู้สมัครในระบบเขตเลือกตั้ง “ระบบเลือกตั้งแบบนี้เอื้อปาร์ตี้ ลิสต์ ให้ผู้สมัครเขตทำางานให้ ผู้สมัครเขต

             เปรียบเสมือนมดงาน พนักงานบริษัท ทำางานให้นายทุน เจ้าของบริษัท” (เสรีย์ นวลเพ็ง, สัมภาษณ์
             20 มกราคม 2562) อย่างไรก็ตาม ผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อของหลายๆ พรรคการเมืองได้ลงพื้นที่ช่วย

             ผู้สมัครในระบบเขตเลือกตั้ง เพราะต่างได้ประโยชน์ซึ่งกันและกัน เพียงแต่ผู้สมัครในระบบบัญชีรายชื่อ
             ช่วยหาเสียงในพื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศ ไม่ได้ปักหลักอยู่ในพื้นที่ใดพื้นที่หนึ่งเท่านั้น


                      พล.ต.ต.สุรินท์ ปาเลเร่ ผู้สมัครพรรคประชาธิปัตย์ เขต 8 เห็นว่า บทบัญญัติของรัฐธรรมนูญ

             พ.ศ. 2560 ที่ไม่กำาหนดคุณวุฒิทางการศึกษา และระบบเลือกตั้งแบบจัดสรรปันส่วนผสมไม่ช่วยกรอง
             ผู้สมัคร ทำาให้มีผู้สมัครจำานวนมาก ซึ่งไม่เป็นผลดีต่อการพัฒนาประชาธิปไตยเพราะหน้าที่ของส.ส.

             ซึ่งทำาหน้าที่ด้านนิติบัญญัติต้องเป็นคนที่มีความรู้พอสมควรในการบัญญัติกฎหมาย


                                   “ระบบเลือกตั้งแบบนี้ท�าให้มีผู้สมัครจ�านวนมาก หน้าที่ของส.ส. ต้องพิจารณา
                            ออกกฎหมาย แต่ผู้สมัครบางรายจบป.4 ถือว่าระบบเลือกตั้งนี้เป็นการถอยหลังเข้าคลอง
                            การใช้บัตรใบเดียวเอาผู้สมัครจ�านวนมากที่เป็นคนในพื้นที่มาเพื่อเอาคะแนนปาร์ตี้ลิสต์

                            อย่างเดียว” (สุรินทร์ ปาลาเร่, สัมภาษณ์ 20 มีนาคม 2562)





                        1.1.2 คนวัยหนุ่มสำวผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก


                      การเลือกตั้งครั้งนี้มีผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรก (first voter) เป็นจำานวนมาก เนื่องจากการเลือกตั้ง
             ครั้งสุดท้ายปี 2554 ห่างจากการเลือกตั้งครั้งนี้ยาวนานถึง 8 ปี จากผลสำารวจความคิดเห็นทางการเมือง

             ของหนังสือพิมพ์โฟกัสภาคใต้ (14-20 มกราคม 2562) ผู้ตอบแบบสอบถามเกินครึ่ง (55.5) อยู่ในวัย

             คนหนุ่มสาวที่อยู่ในสถาบันการศึกษา และในวัยเริ่มต้นทำางาน โดย 8.5% มีอายุระหว่าง 18-25 ปี ซึ่งคนกลุ่มนี้
             ยังไม่เคยใช้สิทธิเลือกตั้งเลย คนกลุ่มนี้จึงสัมผัส ซึมซับกับบรรยากาศทางการเมืองที่มีพรรคการเมือง
             เสนอตัวพรรคและผู้สมัครจำานวนมากให้เลือก โดยที่พวกตนยังไม่ได้ผูกพันกับพรรคการเมืองหนึ่ง

             พรรคการเมืองใดเลย โดยเฉพาะพรรคประชาธิปัตย์ ในขณะที่ 47% มีอายุระหว่าง 26-35 ปี มีประสบการณ์

             ในการเลือกตั้งมาแล้วอย่างน้อย 1 ครั้ง ได้สัมผัสกับบรรยากาศทางการเมืองและการเลือกตั้ง และรับรู้
             การดำาเนินงานของพรรคการเมืองที่ตนเลือกและไม่เลือก ได้เห็นการทำางานของพรรครัฐบาลและพรรคฝ่ายค้าน
             ในช่วงเวลานั้น เสียงของคนรุ่นใหม่เหล่านี้ย่อมสะท้อนถึงคำาตอบต่อคำาถามของโพลล์ที่ว่า “ท่านมีพรรค

             /ผู้สมัครที่จะเลือกแล้วหรือยังโดยเป็นพรรค/ผู้สมัครเดิมหรือไม่” ปรากฏว่า ผู้ตอบแบบสอบถามส่วนใหญ่
   67   68   69   70   71   72   73   74   75   76   77