Page 77 - kpiebook63006
P. 77

77







                  ผ่านการจัดเวทีปราศรัยทั้งขนาดใหญ่และขนาดย่อย การเดินหาเสียงและแจกบัตรแนะนำาตัวในย่านชุมชน
                  การเดินหาเสียงเคาะประตูในแต่ละบ้าน เป็นต้น แต่ก็เป็นการสื่อสารที่มีข้อจำากัดในแง่ของการสื่อสาร 2 ทาง

                  ที่ไม่สามารถดำาเนินการได้ในวงกว้างเนื่องจากต้องใช้เวลามากและเงินทุนสูง ไม่สอดคล้องกับระยะเวลา
                  ของการหาเสียงและงบประมาณที่จำากัด


                          ในขณะที่การเลือกตั้งครั้งนี้เกิดขึ้นในช่วงที่เทคโนโลยีการสื่อสารมีความก้าวหน้าสูงยิ่ง ในขณะที่

                  ผู้มีสิทธิเลือกตั้งส่วนใหญ่สามารถเข้าถึงอุปกรณ์สื่อสารทั้งในรูปของโทรศัพท์มือถือ คอมพิวเตอร์ ที่เชื่อมโยง
                  สัญญาณอินเตอร์เน็ตความเร็วสูง โดยมีการใช้สื่อสังคมออนไลน์ในการติดต่อกันอย่างแพร่หลาย เช่น

                  เฟสบุ๊ก (facebook) ทวิตเตอร์ (twitter) อินสตราแกรม (instragram) พรรคการเมืองและผู้สมัครจำานวน
                  มากใช้เครื่องมือสื่อสารเหล่านี้เป็นช่องทางสำาคัญในการสื่อสารกับผู้มีสิทธิเลือกตั้งและเป็นการสื่อสาร

                  2 ทาง ที่ทำาให้พรรคการเมืองและผู้สมัครรับรู้ถึงความรู้สึก ความต้องการของประชาชนได้อย่างรวดเร็ว
                  พรรคการเมืองที่สามารถใช้เครื่องมือสื่อสารในสื่อสังคมออนไลน์นี้ได้อย่างมีประสิทธิภาพย่อมสร้างความ

                  ได้เปรียบในแง่ของการได้คะแนนนิยมก่อนการเลือกตั้งเป็นอย่างสูงเมื่อเทียบกับผู้สมัครและพรรคการเมือง
                  ที่ยังคงไม่ให้ความสำาคัญกับสื่อประเภทนี้ ยังคงใช้การสื่อสารในรูปแบบเดิมๆ เป็นหลัก เช่น การจัดเวที

                  ปราศรัย การใช้รถแห่ไปยังพื้นที่ต่างๆ การใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมีประสิทธิภาพ พิจารณาได้จาก
                  เนื้อหาที่ใช้ในการหาเสียงควบคู่กับเทคนิคในการนำาเสนอ เช่น การทำาคลิปวิดีโอโฆษณานโยบายพรรค

                  นำาเสนอหัวหน้าพรรค และสมาชิกพรรคที่มีความโดดเด่น จนนำาไปสู่ยอดจำานวนการกดไลค์ หรือกดแสดง
                  ความชื่นชอบ หรือการกดแบ่งปันหรือแชร์ไปให้คนอื่นๆ เป็นจำานวนมาก


                          สื่อสังคมออนไลน์นี้สอดคล้องกับความตื่นตัวของผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกเป็นจำานวนมาก
                  คนเหล่านี้เป็นผู้นิยมใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างแพร่หลายเป็นปกติอยู่แล้วในชีวิตประจำาวัน ดังนั้น

                  พรรคการเมืองและผู้สมัครที่ใช้สื่อสังคมออนไลน์อย่างมาก และมีประสิทธิภาพย่อมสร้างความนิยมให้เกิด

                  ขึ้นในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งครั้งแรกนี้ โดยเห็นว่า พรรคการเมืองและนักการเมืองที่มีลักษณะเช่นนี้เป็นสถาบัน
                  และบุคคลร่วมสมัยกับตนเอง การใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างมากในการหาเสียง
                  เลือกตั้งในแง่หนึ่งก็คือ การเชื่อมโยงประเด็นในระดับชาติทั้งในด้านนโยบาย และปัญหาที่เกิดขึ้นที่จะใช้

                  นโยบายมาช่วยแก้ไขกับพื้นที่ต่างๆ ในการเลือกตั้ง เช่น นโยบายด้านการเกษตรจะแก้ไขปัญหาภาพรวม

                  ในระดับชาติและปัญหาเฉพาะในพื้นที่ต่างๆ ในขณะเดียวกันสามารถนำาประเด็นปัญหาในระดับพื้นที่
                  ผลักดันให้เป็นที่รับรู้ในวงกว้างในระดับชาติ อาทิ ปัญหาราคายางพาราตกตำ่าและแนวทางแก้ไข สื่อสังคม
                  ออนไลน์จึงมีประสิทธิภาพสูงยิ่งในการหาเสียงเลือกตั้งต่อผู้มีสิทธิเลือกตั้งในวงกว้าง พรรคและผู้สมัคร

                  ที่มีความโดดเด่นในการใช้สื่อสังคมออนไลน์ได้แก่ พรรคประชาธิปัตย์ พรรคภูมิใจไทย พรรคอนาคตใหม่
   72   73   74   75   76   77   78   79   80   81   82