Page 34 - kpiebook63006
P. 34
34 การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสงขลา
2. กำรสร้ำงรัฐบำล (making government)
ในระบอบประชาธิปไตยระบบประธานาธิบดี ซึ่งประชาชนผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งเลือกผู้บริหาร
โดยตรง การเลือกตั้งมีความชัดเจนในแง่ของการเลือกผู้ที่จะเป็นรัฐบาลบริหารประเทศ ส่วนในระบอบ
ประชาธิปไตยระบบรัฐสภา ประเทศที่ใช้รูปแบบการเลือกตั้งแบบเสียงข้างมากธรรมดา แบบแบ่งเขต
เขตละ 1 คน และการเมืองมีแนวโน้มเป็นระบบ 2 พรรค ก็มีความชัดเจนพอสมควรว่า พรรคที่ได้รับการ
ยอมรับจากประชาชนจนชนะการเลือกตั้งได้เสียงข้างมากจะได้เป็นรัฐบาล แต่ประเทศที่ใช้ระบบการเลือกตั้ง
แบบสัดส่วน รัฐบาลมักจะเป็นรัฐบาลผสม ซึ่งตกลงกันหลังเลือกตั้งว่าจะจัดสรรตำาแหน่งนายกรัฐมนตรี
และรัฐมนตรีกระทรวงต่างๆ อย่างไร ความชัดเจนของการเลือกตั้งในแง่ของการสร้างรัฐบาลจึงต่างจาก
ระบบประธานาธิบดี
3. กำรมีอิทธิพลต่อนโยบำย (influencing policy)
การเลือกตั้งเป็นโอกาสในการสะท้อนความคิด ความเห็นของประชาชนที่มีต่อนโยบาย และ
การดำาเนินนโยบายของรัฐบาลชุดที่ผ่านมา และนโยบายของพรรคอื่นๆ ที่เสนอตัวแข่งกับพรรครัฐบาล
ซึ่งก็คือ การมีอิทธิพลต่อนโยบายนั่นเอง เนื่องจากในการหาเสียงเลือกตั้งตัวแทนของพรรคการเมืองต่างๆ
จะนำาเสนอนโยบายของตนให้ผู้มีสิทธิเลือกตั้งได้รับทราบผ่านช่องทางต่างๆ ทั้งสื่อมวลชนกระแสหลัก
เช่น วิทยุ โทรทัศน์ หนังสือพิมพ์รายวัน และสื่อกระแสรองซึ่งกำาลังมีบทบาทและอิทธิพลสูงยิ่งในปัจจุบัน
เพราะสามารถเข้าถึงคนกลุ่มต่างๆ อีกทั้งยังสามารถเลือกรับชม ฟัง อ่าน เมื่อใดก็ได้ที่สะดวกผ่าน
ช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ (social media) เช่น เฟสบุ๊ค ไลน์ ทวิตเตอร์ ยูทูบ เป็นต้น
4. กำรให้กำรศึกษำ เรียนรู้แก่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง (educating voters)
กระบวนการของการหาเสียงเลือกตั้งเป็นช่องทางในการนำาเสนอข้อมูล ข่าวสารเกี่ยวกับพรรค
นโยบายพรรค ตัวผู้สมัคร ผลงานของรัฐบาลที่ผ่านมา ตลอดจนประเด็นปัญหาต่างๆ ที่ส่งผลต่อท่าที
ของพรรครัฐบาลและพรรคการเมืองอื่นๆ ช่วยให้ประชาชนเกิดการเรียนรู้ทางการเมืองเพิ่มมากขึ้นจาก
สภาวะปกติที่ไม่มีการเลือกตั้ง เนื่องจากในบรรยากาศของการหาเสียงเลือกตั้งผู้สมัครและพรรคการเมือง
จะใช้ช่องทางต่างๆ ในการสื่อสารทางการเมืองไม่ว่าจะเป็นการปิดโปสเตอร์ แผ่นป้ายหาเสียง การเดิน
หรือขึ้นรถแห่เพื่อแนะนำาตัว การนำาเสนอผ่านช่องทางสื่อสังคมออนไลน์ในรูปของข้อความ ภาพนิ่ง
หรือคลิปวิดีโอ ตลอดจนการแสดงความคิดเห็น แลกเปลี่ยนทัศนะและนโยบายของพรรคในเวทีถกเถียง
แสดงความคิดเห็น (debate) ของสถานีโทรทัศน์ช่องต่างๆ เหล่านี้ย่อมสร้างบรรยากาศการเรียนรู้ให้เกิดขึ้น
ในหมู่ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้ง
5. กำรสร้ำงควำมชอบธรรม (building legitimacy)
เหตุผลหนึ่งที่ทำาให้ประเทศที่เป็นเผด็จการทั้งหลายยังต้องจัดให้มีการเลือกตั้งเกิดขึ้น ทั้งๆ ที่
ไม่เป็นไปตามหลักการประชาธิปไตย ดังเช่นที่เกิดขึ้นในประเทศที่ปกครองในระบอบคอมมิวนิสต์ทั้งหลาย