Page 140 - kpiebook63006
P. 140

140   การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้ง
                 สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดสงขลา






                      ประเด็นสำาคัญประการหนึ่งของแนวคิด ทฤษฎีการตัดสินใจเลือกอย่างเป็นเหตุเป็นผล ก็คือ

             การตัดสินใจเลือกของประชาชน ซึ่งในที่นี้ก็คือผู้ใช้สิทธิเลือกตั้งมาจากการได้รับข้อมูลข่าวสารในเรื่องที่จะ
             ตัดสินใจอย่างเพียงพอ (รายละเอียดของแนวคิด ทฤษฎีนี้ได้อภิปรายแล้วในบทที่ 2 ) การเลือกตั้งครั้งนี้

             เกิดขึ้นในยุคที่ข้อมูลข่าวสารมีการแพร่กระจายไปยังประชาชนกลุ่มต่างๆ พื้นที่ต่างๆ ทั่วประเทศอย่าง
             แพร่หลายมากที่สุดเมื่อเทียบกับการเลือกตั้งครั้งก่อน โดยเฉพาะเป็นครั้งแรกที่มีการใช้สื่อสังคมออนไลน์

             เช่น เฟสบุ๊ค ทวิตเตอร์ ยูทูป อินสตาร์แกรม ในการหาเสียงเลือกตั้งทั้งจากพรรคการเมืองและผู้สมัคร
             ในเขตเลือกตั้ง และยิ่งไปกว่านั้นการสื่อสารเพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลข่าวสารระหว่างกันในหมู่ผู้มีสิทธิเลือกตั้ง

             ผ่านสื่อสังคมออนไลน์ยังเกิดขึ้นอย่างกว้างขวางเป็นครั้งแรกในการเลือกตั้งครั้งนี้


                      ดังนั้น ผู้วิจัยจึงเห็นว่า การตัดสินใจเลือกนโยบายพรรคเป็นปัจจัยที่สำาคัญต่อผลการเลือกตั้ง
             ในครั้งนี้ โดยเฉพาะในเขตที่พรรคประชาธิปัตย์พ่ายแพ้ให้กับพรรคพลังประชารัฐ ผู้สมัครในหลายเขต

             เลือกตั้งเป็นผู้สมัครหน้าใหม่ ไม่ได้มีชื่อเสียงเป็นที่ประจักษ์ชัด แม้บางเขตจะเคยเป็นนักการเมืองท้องถิ่น
             ในระดับสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัดมาก่อนก็ตาม นโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่ประชาชน

             ชื่นชอบมากที่สุดก็คือ นโยบายบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ ซึ่งชื่อของนโยบายตรงกับ “โครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ”
             หรือที่รู้จักกันในหมู่ประชาชนโดยทั่วไปว่า “บัตรคนจน” ของรัฐบาลพลเอกประยุทธ์ พรรคพลังประชารัฐ

             จึงมีความได้เปรียบเหนือพรรคการเมืองอื่นๆ ในแง่หนึ่งก็คือ การใช้ชื่อของนโยบายตรงกับชื่อของโครงการ
             รัฐบาลที่กำาลังดำาเนินการอยู่ การตัดสินใจเลือกพรรคพลังประชารัฐของผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยเฉพาะผู้ที่มีบัตร

             สวัสดิการแห่งรัฐอยู่แล้วด้านหนึ่งเพราะหวั่นเกรงว่าหากพรรคพลังประชารัฐไม่ชนะเลือกตั้ง ไม่สามารถ
             จัดตั้งรัฐบาลได้ โดยเฉพาะหากพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา ไม่ได้เป็นนายกรัฐมนตรีต่อไปอีกหลังเลือกตั้ง

             จะทำาให้รัฐบาลใหม่ยกเลิกโครงการนี้ (คณะทำางานพรรคพลังประชารัฐ เขต 1, สัมภาษณ์ 14 มีนาคม 2562)

                      ความนิยมของประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งจำานวนไม่น้อยที่มีต่อบัตรคนจน สะท้อนให้เห็นจาก

             ผู้สมัครและพรรคการเมืองต่างๆ ที่ไม่อภิปรายหาเสียงด้วยการโจมตีในเรื่องนี้ อีกทั้งยังชี้แจงกับประชาชน

             อีกว่า หากพรรคได้เป็นรัฐบาลจะไม่มีการยกเลิกโครงการนี้ แต่อาจจะปรับเปลี่ยนให้ประชาชนได้รับ
             ประโยชน์และความสะดวกมากขึ้นในการใช้บัตรนี้ เช่น อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ กล่าวถึงเรื่องนี้กับผู้มีสิทธิ
             เลือกตั้งที่มาฟังปราศรัยใหญ่ของพรรคซึ่งจัดขึ้นในเขตเลือกตั้งที่ 1 ทั้งๆ ที่ผู้ฟังส่วนใหญ่มีความผูกพัน

             กับพรรคประชาธิปัตย์อยู่แล้วว่า


                                   “พรรคประชาธิปัตย์จะไม่ยกเลิกบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ แต่จะปรับปรุงแก้ไขให้ดี
                            ยิ่งขึ้นคือ จะจัดสรรให้ถึงคนจนจริงๆ หากมีบัตรแต่ไม่จนจริงจะเอาบัตรคืน พรรคจะใช้

                            หลักการสวัสดิการเช่น เน้นความยั่งยืน ชัดเจนในแง่ของสิทธิต่างๆ ค�านึงถึงความเท่าเทียม
                            นอกจากนั้นยังต้องกระจายรายได้ให้กับผู้ค้าขายอย่างทั่วถึง ไม่กระจุกอยู่เฉพาะบริษัท

                            ห้างร้านขนาดใหญ่ แต่จะให้ไปถึงตลาดสด พ่อค้าแม่ค้ารายย่อย และจะโอนเงินเข้าบัญชีเลย
                            จะเอาไปใช้ที่ใดก็ได้” (อภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ, ปราศรัย 3 มีนาคม 2562)
   135   136   137   138   139   140   141   142   143   144   145