Page 148 - kpiebook63001
P. 148
130
โดยการเลือกตั้งครั้งนี้ พบว่า การตัดสินใจเลือกลงคะแนนให้แก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมืองใดนั้นเกี่ยวข้องกับ
ความคิดความเชื่อที่อยู่บนฐานของการปะทะกันระหว่างวิวาทะว่าด้วยเรื่องของหยุดการสืบทอดอำนาจของ
เผด็จการกับฝ่ายที่สนับสนุนการสืบทอดอำนาจของคณะรัฐประหาร ในขณะเดียวกัน แม้ว่าการเกิดขึ้นของ
พรรคพลังประชารัฐที่อิงกับนโยบายประชารัฐของรัฐบาลจะยังไม่สามารถก้าวไปสู่สร้างความเชื่อมั่นหรือ
ความนิยมในฐานะพรรคการเมืองได้มากนัก แต่การแข่งขันเชิงนโยบายและประโยชน์ที่ได้จากการดำเนิน
นโยบายต่างๆ ภายใต้รัฐบาลที่ผ่านมายังมีอิทธิพลอยู่มากต่อการตัดสินใจเลือกของประชาชน นั่นหมายความว่า
การตัดสินใจเลือกลงคะแนนในการเลือกตั้งครั้งนี้ไม่เพียงแต่เป็นการแสดงออกถึงความนิยมที่มีต่อ
พรรคการเมืองและผู้สมัครในเขตเลือกตั้งเท่านั้น หากแต่ยังถูกนำมาใช้ในการแสดงออกถึงอุดมการณ์ทาง
การเมืองของประชาชนและความนิยมต่อรัฐบาลในขณะนั้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
(2) ความนิยมต่อพรรคการเมืองมีความลื่นไหล
เมื่อพิจารณาระดับความเข้มข้นในการแข่งขันของแต่ละเขตเลือกตั้งดังที่นำเสนอไว้ในบทที่ 3
ประกอบกับผลการเลือกตั้งที่แม้ว่าพรรคเพื่อไทยและผู้สมัครกลุ่มเดิมยังคงได้รับการเลือกตั้ง แต่การกระจาย
ของคะแนนไปยังพรรคการเมืองต่างๆ ชี้ให้เห็นว่าความจงรักภักดีต่อพรรคเพื่อไทยซึ่งเคยเป็นพรรคโดดเด่น
พรรคเดียวที่ชนะการเลือกตั้งในจังหวัดร้อยเอ็ดอย่างต่อเนื่องมาตั้งแต่เป็นพรรคไทยรักไทยนั้นได้เริ่มคลายตัวลง
จากระดับคะแนนที่ลดลงจากการเลือกตั้งที่ผ่านมาเกือบทุกเขตเลือกตั้ง ในขณะเดียวกันการเกิดขึ้นและ
ความโดดเด่นของพรรคการเมืองใหม่ เช่น พรรคพลังประชารัฐที่ได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาล และ
พรรคอนาคตใหม่ที่ผู้สมัครไม่เคยมีประสบการณ์ในฐานะนักการเมืองระดับชาติหรือเคยเป็นอดีตสมาชิก
สภาผู้แทนราษฎรมาก่อน ซึ่งกล่าวได้ว่า ความนิยมที่ผู้มีสิทธิเลือกตั้งโดยเฉพาะกลุ่มคนที่เคยสนับสนุน
พรรคเพื่อไทยและกลุ่มคนรุ่นใหม่มีต่อพรรคอนาคตใหม่ที่ไม่ใช่เพียงพรรคการเมืองเท่านั้น แต่เป็นการแสดงออก
การแสวงหาทางเลือกใหม่ของประชาชนที่แสดงให้เห็นว่าความนิยมหรือยึดติดกับพรรคการเมืองที่มีอยู่เดิม
ด้วยอุดมการณ์หรือประโยชน์ที่เคยได้จากนโยบายได้คลายตัวลง รวมทั้งความนิยมของประชาชนที่มีต่อ
พรรคการเมืองนั้นมีความลื่นไหลมากขึ้นตามบริบทหรือการเปลี่ยนแปลงทางการเมืองที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานั้นๆ
ส่งผลต่อการปรับตัวของพรรคการเมืองต่างๆ ที่มีอยู่เดิมรวมถึงเป็นบทเรียนให้กับพรรคการเมืองที่เกิดขึ้นใหม่
อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
(3) อิทธิพลของเทคโนโลยีสื่อสารสมัยใหม่
นอกเหนือจากการใช้รูปแบบและวิธีการหาเสียงต่างๆ ที่เป็นรูปแบบดั้งเดิมแล้ว ไม่สามารถปฏิเสธได้ว่า
อินเตอร์เนทและพื้นที่สื่อสังคมออนไลน์ได้กลายเป็นเครื่องมือสื่อสารที่ช่วยให้ประชาชนสามารถเข้าถึงข้อมูล
และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีปฏิสัมพันธ์ระหว่างกัน หรือระหว่างประชาชนกับพรรคการเมืองและผู้สมัคร
อีกทั้งยังเป็นพื้นที่และเครื่องมือที่นำไปสู่การถกเถียงที่ขยายไปในวงกว้างและยากต่อการจำกัดการรับรู้
โดยเฉพาะอย่างยิ่งผลจากการขยายตัวของการใช้เทคโนโลยีสมัยใหม่ ที่กระจายการใช้งานไปในประชาชน
ทุกกลุ่มอายุ ตลอดจนยังเป็นโอกาสในการสร้างพื้นที่ในการณรงค์หาเสียงเลือกตั้งของผู้สมัครที่เป็นการลด
การศึกษาความเคลื่อนไหวทางการเมืองและพฤติกรรมการเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร 2562 จังหวัดร้อยเอ็ด