Page 65 - kpiebook62011
P. 65
61
3. กรณีประเทศเม็กซิโก 11
ระบบภาษีของประเทศเม็กซิโก แบ่งเจ้าหน้าที่จัดเก็บภาษีเป็นสามระดับ คือ รัฐบาลกลาง มลรัฐ และ
ท้องถิ่น ตามหลักนิติบัญญัติได้กำหนดให้ภาษีเป็นสิทธิของรัฐบาลกลาง แต่อนุญาตให้จัดเก็บได้ในหลายระดับ
สำหรับภาษีบางประเภท โดยเฉพาะภาษีทรัพย์สิน ในทางปฏิบัติภาษีทรัพย์สินเป็นของมลรัฐ ส่วนภาษีเงินได้
จากทุนที่เกิดจากการโอนอสังหาริมทรัพย์กำหนดให้เป็นของรัฐบาลกลาง สำหรับภาษีประเมินพิเศษนั้นกำหนด
มีการจัดเก็บในทุกระดับ แต่โดยทั่วไปจะใช้กับโครงการสร้างสาธารณูปโภคในระดับมลรัฐหรือท้องถิ่น
12
ซึ่งในส่วนของท้องถิ่นอาจมีเรื่องหลักความร่วมมือหรือเรื่องการลงขัน (Cost-Sharing Arrangements)
มาเกี่ยวข้องกับเจ้าของทรัพย์สินในท้องถิ่นนั้น
ในประเทศเม็กซิโกมีการปฏิรูปภาษีทรัพย์สินในช่วง ค.ศ. 1970 ซึ่งเวลาเดียวกันนี้ ได้มีการพัฒนาระบบ
แผนที่ผังเมืองจนมีความสมบูรณ์แล้ว ครอบคลุมพื้นที่ในเขตเมืองทั้งหมด มีการประเมินทรัพย์สินเพื่อการ
เสียภาษี โดยคิดคำนวณกับปัจจัยต่างๆ เช่น ความใกล้ไกลจากศูนย์กลางการพัฒนา ลักษณะของโครงการ
สถานะทางสังคมและเศรษฐกิจเป็นตัวกำหนด ซึ่งมูลค่าที่ประเมินได้นี้ต้องพิจารณาเปรียบเทียบให้ใกล้เคียงกับ
ราคาตลาด และเป็นราคาที่เป็นปัจจุบัน
ในระหว่างปี ค.ศ. 1970 ถึง ค.ศ. 1974 ภาษีประเมินพิเศษได้ถูกนำมาปรับใช้ภายใต้ชื่อ
“Contributions for Improvements” และใช้เป็นเครื่องมือทางการเงินที่สำคัญ โดยประมวลกฎหมาย
ภาษีของเม็กซิโก ให้คำนิยามภาษีประเมินพิเศษเป็นภาษีพิเศษที่จัดเก็บจากผลประโยชน์ส่วนต่างของแต่ละ
บุคคลที่เพิ่มขึ้นจากโครงการสาธารณูปโภค มีการออกพระราชบัญญัติสร้างระบบภาษีประเมินพิเศษขึ้นมา
เป็นกฎหมายกำหนดการปรับใช้ภาษีประเมินพิเศษ และมีกฎหมายลำดับรองออกมาใช้ในทางปฏิบัติเพื่อให้
เหมาะสมกับแต่ละโครงการ
กฎหมายภาษีประเมินพิเศษของเม็กซิโกกำหนดให้ต้องมีการก่อตั้งสภากลุ่มเจ้าของทรัพย์สินเพื่อ
มาประชุมเลือกตัวแทนเจ้าของทรัพย์สิน ร่วมปรึกษาหารือกับผู้ควบคุมทางเทคนิค รับรู้ข้อมูลโครงการ
สภากลุ่มเจ้าของทรัพย์สินมีหน้าที่ในการประเมินศึกษาโครงการ จัดเก็บภาษีตามที่มีการควบคุมดูแล ซึ่งจะต้อง
สอดคล้องกับลักษณะของแต่ละโครงการ สภากลุ่มเจ้าของทรัพย์สินต้องทำรายงานบันทึกเป็นเอกสารเพื่อ
พิมพ์เผยแพร่ข้อมูลให้ผู้เสียภาษีต่อไป
ผู้เสียภาษีแต่ละคนจะได้รับรู้ข้อมูลพื้นฐานเกี่ยวกับงบประมาณของโครงการ พื้นที่ที่ได้รับผลประโยชน์
จำนวนภาระภาษีที่ต้องเสียโดยได้รับเป็นเอกสารแสดงถึงข้อมูลดังกล่าว ทั้งนี้ มีวัตถุประสงค์เพื่อให้ผู้เสียภาษีได้
รับทราบข้อมูลที่ต้องการเท่าที่เป็นไปได้ เมื่อใดก็ตามที่ไม่เห็นด้วยกับข้อมูลดังกล่าว ก็สามารถที่จะเตรียมตัว
หรือมีเวลาที่จะโต้แย้งได้ภายในกำหนดเวลาหรืออายุความตามกฎหมาย หลังจากระยะเวลาสิ้นสุดลงและ
11 อ้างแล้ว pp. 70-74.
12 Cost-Sharing Arrangements เป็นวิธีการที่คล้ายกับภาษีประเมินพิเศษ โดยเป็นการร่วมมือกันของคนในท้องถิ่นจ่าย
เงินทุนเพื่อสร้างสาธารณูปโภคขนาดเล็ก มีกฏหมายกำหนดใน เรื่องการคำนวณสัดส่วนการจ่าย แต่ไม่มีการบังคับเหมือนกับภาษีประเมิน
พิเศษ วิธีนี้นิยมใช้กันในประเทศอาเจนติน่า
พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530