Page 64 - kpiebook62011
P. 64

60






                     การคำนวณภาษี หรือการประเมินของโคลอมเบียจะใช้เทคนิคการประเมินภาระหนี้ภาษีที่เน้นทางปฏิบัติ

               ซึ่งไม่เหมือนกับประเทศอื่นๆ ที่มีกฎหมายกำหนดวิธีการรูปแบบการประเมินที่ชัดเจนในการระบุภาระหนี้ภาษี
               ของแต่ละบุคคล แต่ของโคลอมเบียจะไม่จำกัดรูปแบบ ให้อำนาจเจ้าหน้าที่หรือผู้เชี่ยวชาญสามารถกำหนด

               หาโควตาที่จะต้องเสียภาษีได้โดยไม่มีกฎหมายกำหนดรูปแบบ แต่ก็ต้องอยู่ภายใต้หลักการที่ว่าภาษีประเมิน
               พิเศษที่จัดเก็บต้องไม่เกินราคาของโครงการบวกกับค่าใช้จ่ายของเจ้าหน้าที่ และต้องไม่เกินผลประโยชน์ที่
               ผู้เสียภาษีได้รับ


                     การชำระภาษีหรือการเก็บภาษีนั้น มีประเด็นว่าควรเก็บก่อนเริ่มโครงการ หรือระหว่างดำเนินโครงการ
               หรือเมื่อเสร็จสิ้นโครงการ ตามหลักการแล้ว ถ้าต้องการให้มีการประเมินได้อย่างถูกต้องนั้น จะต้องจัดเก็บ

               หลังจากโครงการเสร็จสมบูรณ์แล้ว แต่ในทางปฏิบัติ การเก็บภาษีหลังจากเสร็จโครงการมีโอกาสล้มเหลวสูง
               โครงการในประเทศอื่นๆ ที่มีพฤติการณ์เงื่อนไขที่คล้ายกันเกิดความล้มเหลวจากการที่เจ้าหน้าที่ตัดสินใจ

               ประเมินภาษีหลังโครงการเสร็จแล้ว ดังนั้น โคลอมเบียจึงเน้นประเมินแบบสมมติ และจัดเก็บก่อนหรือระหว่าง
               โครงการ ซึ่งจากที่มีการใช้ภาษีประเมินพิเศษมาแล้วสองทศวรรษ สังเกตได้จากประสบการณ์จึงมีการกำหนด
               ข้อสมมติพื้นฐานขึ้นมา เพื่อสนับสุนนให้เลื่อนการประเมินและการจัดเก็บภาษีมาเป็นก่อนเริ่มหรือระหว่าง

               ดำเนินโครงการ ทั้งนี้ เพื่อป้องกันความล้มเหลวจากกรณีประเมินและจัดเก็บหลังเสร็จสิ้นโครงการ

                     การจัดเก็บภาษีประเมินพิเศษของโคลอมเบียไม่ได้มีการสำรวจรวบรวมข้อมูลไว้ชัดเจน แต่ก็พอที่จะ
               กะประมาณได้ว่าจัดเก็บได้ปีละ $50 ล้าน ซึ่งตัวเลขนี้บอกเป็นนัยว่าประมาณ $2 ต่อทุนพื้นฐานประชากรของ

               ประเทศโคลอมเบีย จากตัวเลขดังกล่าวนี้ เห็นได้ว่าภาษีประเมินพิเศษทำรายได้ให้แก่โคลอมเบียอย่างน่าพอใจ
               โดยในเมืองเมเดิลลิน ภาษีประเมินพิเศษทำรายได้ใกล้เคียง หรือเกือบเท่ากับรายได้จากภาษีทรัพย์สิน ส่วนใน

               เมืองโบโกต้า แม้จะทำรายได้ตํ่ากว่ารายได้จากภาษีทรัพย์สิน แต่ภาษีประเมินพิเศษก็ทำรายได้ได้มาก
               พอสมควร


                     การใช้ภาษีประเมินพิเศษในเมืองโบโกต้าถูกขัดขวางหรือขัดจังหวะอยู่หลายๆ ครั้ง จากการคัดค้านของ
               ประชาชนเนื่องจากเห็นว่าระบบออกแบบมาไม่เหมาะสม จนกระทั่งในปี ค.ศ.1966 มีการแก้ไขระบบจนมีความ
               สมบูรณ์และประสบผลสำเร็จในการใช้ ถือเป็นแหล่งการเงินถาวรที่สำคัญ ซึ่งในเวลาเดียวกันนี้ รัฐบาล

               โคลอมเบียก็จัดตั้งระบบภาษีประเมินพิเศษจนประสบผลสำเร็จเช่นกัน ปัจจุบันภาษีประเมินพิเศษมีการใช้
               แพร่หลายไปหลายเมืองใหญ่ในโคลอมเบีย เช่น เมืองกาลีและเมือบาร์รังกียา (Cali and Barranquilla) และ

               มีความพยายามนำมาปรับใช้ในเมืองเล็กๆ โดยมี The Valley of the Cauca Corporation เป็นหน่วยงาน
               เจ้าหน้าที่ส่วนภูมิภาคคอยให้ความช่วยเหลือ


                     ภาษีประเมินพิเศษจะปรับใช้กับโครงการสาธารณูปโภคอย่างกว้างขวาง ทั้งงานด้านระบบถนน เช่น
               ปรับปรุงพื้นผิวและขอบถนน สร้างถนนสายหลักและสายรอง โดยเฉพาะถนนสายรองในท้องถิ่นถือเป็นตัวอย่าง
               หลักในการใช้ภาษีประเมินพิเศษ และงานด้านระบบท่อระบายนํ้า (ส่วนใหญ่จะเป็นการก่อสร้างพร้อมกับ

               การสร้างถนน) เขื่อนกั้นนํ้า สะพาน และสวนสาธารณะ และยังมีการจัดตั้งสถาบันปฏิรูปการจัดสรรที่ดินและ
               ชุมชนภาคเกษตรกรรม (The Institute for Settlement and Agrarian Reform) ซึ่งมีสำนักงานใหญ่ในเมือง

               โบโกต้าเพื่อพิจารณาการนำภาษีประเมินพิเศษมาใช้กับงานด้านระบบชลประทานโดยเฉพาะด้วย






                                       พระราชบัญญัติว่าด้วยการเวนคืนอสังหาริมทรัพย์ พ.ศ. 2530
   59   60   61   62   63   64   65   66   67   68   69