Page 119 - kpiebook62006
P. 119

114


                        3.2.4 ข้อสังเกตบางประการเกี่ยวกับรูปแบบของการก าหนดหน้าที่พลเมืองขั้นพื้นฐานที่เชื่อมโยง


                 กับสิทธิเสรีภาพในประเทศไทยเปรียบเทียบกับต่างประเทศ

                               จากการศึกษารูปแบบของการก าหนดหน้าที่พลเมืองขั้นพื้นฐานที่เชื่อมโยงกับสิทธิเสรีภาพใน

                 ประเทศไทยเปรียบเทียบกับต่างประเทศ  มีข้อสังเกตบางประการที่น่าสนใจ ดังนี้


                               (1) ภูมิหลัง และความเป็นมาของประเทศมีส่วนส าคัญในการผลักดันที่ท าให้การด าเนินการ

                 ตามรูปแบบของก าหนดหน้าที่พลเมืองขั้นพื้นฐานที่เชื่อมโยงกับสิทธิเสรีภาพประสบส าเร็จ ดังจะเห็นได้จาก

                 ประเทศเยอรมนี และประเทศญี่ปุ่นที่ต้องเผชิญกับบทเรียนอันเจ็บปวดในสถานการณ์สงครามโลกครั้งที่สอง

                 หรือประเทศสหรัฐอเมริกา ก็เกิดความตื่นตัวหลังการประกาศอิสรภาพจากประเทศอังกฤษ ส่งผลให้ประเทศ

                 และองค์กรต่าง ๆ ในสองประเทศนี้ให้ความส าคัญกับการสร้างพลเมืองให้รู้จักการเมืองการปกครองระบอบ


                 ประชาธิปไตยและสิทธิมนุษยชน และประชาชนก็ตระหนักถึงความส าคัญของความเป็นพลเมืองของประเทศ

                 ในขณะที่ประเทศไทย ภูมิหลังของการเกิดแนวคิดของการสร้างความเป็นพลเมืองนั้น มาจากการก าหนดของรัฐ

                 เพื่อให้มีการจัดการเรียนการสอนในลักษณะที่เป็นหลักสูตร “วิชาหน้าที่พลเมือง” อันเป็นปลูกฝังให้ประชาชน

                 “ต้องท า” เพราะเป็นหน้าที่ ไม่ได้เกิดจากความตระหนัก หรือจิตส านึก จึงท าให้การสร้างความเป็นพลเมือง

                 ไทยที่ผ่านมานั้นไม่ประสบผลส าเร็จเท่าที่ควร


                               (2) จุดเด่นที่น่าสนใจของประเทศเยอรมนีที่ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่มีให้ความส าคัญกับ

                 การศึกษาเพื่อสร้างความเป็นพลเมืองคือ การก าหนดให้เป็นภารกิจหลักของสังคมโดยเขียนไว้ในรัฐธรรมนูญ

                 เยอรมนี (Basic Law) โดยถือเป็นหน้าที่หลักของรัฐ และภาคประชาชนสังคม โดยที่รัฐต้องให้งบประมาณ

                 สนับสนุน และเป็นบทบาทหลักที่ต้องด าเนินการ มีการออกกฎหมายว่าด้วยการศึกษาด้านการเมืองใน

                 ระดับประเทศและระดับมลรัฐ และการจัดตั้งกลไกที่เรียกว่า “ศูนย์กลางศึกษาทางการเมือง” เพื่อท าหน้าที่

                 เผยแพร่ความรู้ด้านการเมืองการปกครองให้แก่พลเมืองของประเทศ โดยมีความเชื่อมโยงและเป็นตัวกลาง

                 ระหว่างพรรคการเมือง กับประชาชนทั่วไป ซึ่งคล้ายคลึงกับประเทศสหรัฐอเมริกาที่มีการจัดตั้ง  “ศูนย์

                 การศึกษาเพื่อสร้างพลเมือง” ในขณะที่ประเทศนอร์เวย์มีกลไกที่น่าสนใจในหลักสูตรการศึกษา กล่าวคือ การ

                 ก าหนดให้ทุกโรงเรียนมี “สภานักเรียน” โดยบรรจุไว้ในหลักสูตรการศึกษาระดับชาติ หรือกระทั่งฟินแลนด์ก็มี

                 ความน่าสนใจในการให้ตัวแทนครอบครัวมีหน้าที่ร่วมออกแบบแบบหลักสูตรกับสถานศึกษา รวมถึงให้อิสระแก่

                 องค์กรและสมาคมต่าง ๆ มีส่วนร่วมในการจัดท าแนวทางของหลักสูตรและเนื้อหาสาระการเรียนรู้และการ

                 ฝึกอบรมวิธีการสอนส าหรับครูเพื่อสอนวิชาพลเมือง
   114   115   116   117   118   119   120   121   122   123   124