Page 120 - kpiebook62006
P. 120
115
ส าหรับประเทศไทยแล้ว พบว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2560 แทบ
ไม่ได้มีการบัญญัติใช้ค าว่า “พลเมือง” ในรัฐธรรมนูญฉบับดังกล่าวเลย มีเพียงมาตราเดียวที่ปรากฏค าว่า
“พลเมือง” คือ มาตรา 71 วรรคสองในหมวดหน้าที่ของรัฐ กล่าวคือบัญญัติให้รัฐพึงส่งเสริมและพัฒนา
ทรัพยากรมนุษย์ให้เป็นพลเมืองที่ดี มีคุณภาพและความสามารถสูงขึ้น ซึ่งโดยนัยของมาตราดังกล่าวแล้ว
มองว่าการส่งเสริมและพัฒนาคนไทยให้เป็นพลเมืองที่ดีนั้น เป็นหน้าที่ที่รัฐต้องด าเนินการ แต่รัฐธรรมนูญก็ยัง
มิได้ก าหนดรูปแบบของการส่งเสริมของรัฐว่าจะเป็นในรูปแบบใด ในขณะที่หากย้อนกลับไปพิจารณา
รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย พุทธศักราช 2550 ในมาตรา 87 (5) พบว่าได้มีการก าหนดให้รัฐต้อง
ด าเนินการตามแนวนโยบายด้านการมีส่วนร่วมของประชาชน โดยส่งเสริมให้ประชาชนมีความเข้มแข็งในทาง
การเมือง และจัดให้มีกฎหมายจัดตั้งกองทุนพัฒนาการเมืองภาคพลเมืองเพื่อช่วยเหลือการด าเนินกิจกรรม
สาธารณะของชุมชน รวมทั้งสนับสนุนการด าเนินการของกลุ่มประชาชนที่รวมตัวกันในลักษณะเครือข่ายทุก
รูปแบบให้สามารถแสดงความคิดเห็นและเสนอความต้องการของชุมชนในพื้นที่ ซึ่งปัจจุบันกฎหมายดังกล่าวได้
ถูกยกเลิกไปแล้ว และมิได้มีการบัญญัติประเด็นนี้ไว้ในรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยฉบับปัจจุบัน
อย่างไรก็ตาม หากพิจารณาในหมวด 16 การปฏิรูปประเทศ มาตรา 258 ก.ด้านการเมือง (1)
และ (2) ได้ก าหนดให้ต้องปฏิรูปประเทศเพื่อให้ประชาชนมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องเกี่ยวกับการปกครองใน
ระบอบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข มีส่วนร่วมในการด าเนินกิจกรรมทางการเมือง
รวมตลอดทั้งการตรวจสอบการใช้อ านาจรัฐ รู้จักยอมรับในความเห็นทางการเมืองโดยสุจริตที่แตกต่างกัน และให้
ประชาชนใช้สิทธิเลือกตั้งและออกเสียงประชามติโดยอิสระปราศจากการครอบง าไม่ว่าด้วยทางใด ตลอดจนให้
การด าเนินกิจกรรมของพรรคการเมืองเป็นไปโดยเปิดเผยและตรวจสอบได้ เพื่อให้พรรคการเมืองพัฒนาเป็น
สถาบันทางการเมืองของประชาชนซึ่งมีอุดมการณ์ทางการเมืองร่วมกัน มีกระบวนการให้สมาชิกพรรคการเมือง
มีส่วนร่วมและมีความรับผิดชอบอย่างแท้จริงในการด าเนินกิจกรรมทางการเมืองและการคัดเลือกผู้มีความรู้
ความสามารถ ซื่อสัตย์สุจริต และมีคุณธรรมจริยธรรม เข้ามาเป็นผู้ด ารงต าแหน่งทางการเมืองที่ชัดเจนและเป็น
รูปธรรม ซึ่งการก าหนดแนวทางการปฏิรูปประเทศไว้ในกฎหมายสูงสุดของประเทศดังกล่าว นับเป็นจุดเริ่มต้น
ส าคัญที่จะน าไปสู่การขับเคลื่อนแนวคิดการสร้างพลเมืองให้เกิดขึ้นให้เป็นมาตรการเชิงนโยบาย และมาตรการ
ทางกฎหมายต่อไป
(3) จากการศึกษาพบว่า ทุกประเทศให้ความส าคัญกับการจัดการศึกษาเพื่อสร้างความเป็น
พลเมืองทั้งการศึกษาในระบบและการศึกษานอกระบบ แม้กระทั่งประเทศไทยเอง ก็มีความพยายามในการ
ก าหนด “หน้าที่ของพลเมือง” ไว้ในหลักสูตรการศึกษา จนกระทั่งมีการจัดท าเป็น “ยุทธศาสตร์พัฒนา