Page 141 - kpiebook62005
P. 141
องค์การอนามัยโลกและยูนิเซฟให้ค าจ ากัดความของ น าบริโภค (Drinking water) ว่า หมายถึง “น า
ซึ่งไม่มีสารเคมีหรือสารพิษในปริมาณที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพเจือปน และปราศจากกลิ่น สี และรสที่ไม่เป็นที่
1
2
ยอมรับ” กรมอนามัยแบ่งแหล่งน าบริโภค แบ่งเป็น 6 ประเภท ได้แก่
1) น าประปา เป็นน าที่น ามาจากแหล่งน าธรรมชาติ เช่น น าผิวดิน น าใต้ดิน น ามาผ่านขั นตอนการ
ปรับปรุงคุณภาพเพื่อผลิตให้เป็นน าสะอาดตามหลักวิชาการและวิธีอันเหมาะสมแล้วจ่ายน าที่ผลิตได้ให้แก่
ประชาชน โดยการจ่ายไปตามท่อผ่านมาตรวัดตลอด 24 ชั่วโมง
2) น าบ่อบาดาล เป็นน าที่เกิดจากน าฝนที่ตกลงมาไหลซึมลงดิน บางส่วนจะถูกดินดูดซับไว้ ส่วนที่เหลือ
จะไหลซึมต่อไปจนกระทั่งถึงชั นดินหรือหิน น าในชั นหินส่วนนี เรียกว่าน าบาดาล การน าน าบาดาลขึ นมาบริโภค
ต้องใช้วิธีการเจาะสูบซึ่งมีท่อกรองช่วยกรองทรายมิให้ไหลเข้าสู่บ่อและสูบน าขึ นมาใช้
3) น าบ่อตื น เป็นน าใต้ดินที่ขุดลึกจากพื นดินลงไปตั งแต่ 3-10 เมตร ขึ นอยู่กับระดับน าใต้ดินในพื นที่ น า
ในบ่อมาจากการไหลซึมเข้ามาตามรูพรุนของขอบบ่อหรือก้นบ่อ คุณภาพของน าอยู่ในเกณฑ์พอใช้ ไม่ดีเท่าน า
บาดาล การสร้างบ่อน าตื นที่ถูกหลักสุขาภิบาล ที่ตั งบ่อต้องห่างจากแหล่งโสโครก เช่น ส้วม น าเสีย ที่ทิ งขยะ
ไม่น้อยกว่า 30 เมตร วางขอบบ่อคอนกรีตซ้อนกันขึ นมาสูงจากพื น 50-80 เซนติเมตร อัดกรวดโดยรอบขอบ
นอกบ่อและก้นบ่อ ยารอยต่อของขอบคอนกรีตในระยะ 3 เมตรจากพื นดิน เนื่องจากในระยะนี เชื อโรคในดินยัง
อาศัยอยู่ได้ และเทคอนกรีตบนพื นดินรอบขอบนอกของบ่อ เพื่อไม่ให้น าสกปรกไหลลงบ่อน า
4) น าฝน เป็นน าธรรมชาติจากฟ้า การเก็บกักน าฝนต้องค านึงถึงความสะอาดของบรรยากาศ ดังนั น
วิธีการเก็บกักควรเก็บหลังจากที่ให้ฝนตกไประยะหนึ่ง เพื่อให้มลพิษในอากาศถูกชะไปก่อน นอกจากนั นหลังคา
รางน า ที่รองรับน าฝน รวมทั งภาชนะเก็บกักต้องมีการท าความสะอาดเป็นประจ า
5) น าบริโภคในภาชนะบรรจุปิดสนิท เป็นน าที่ผ่านกรรมวิธีการปรับปรุงคุณภาพและบรรจุลงในภาชนะ
ที่มีฝาหรือจุกปิดสนิท และน าในภาชนะบรรจุนั นจะต้องมีคุณภาพมาตรฐานตามประกาศกระทรวงสาธารณสุข
โดยแหล่งน าที่น ามาใช้ในการผลิตอาจเป็นน าประปา หรือแหล่งน าตามธรรมชาติ
6) น าจากตู้จ าหน่ายน าดื่ม หมายถึง น าที่ผ่านกรรมวิธีการปรับปรุงคุณภาพโดยผู้ใช้บริการน าภาชนะมา
บรรจุและมีการจ่ายเงินเป็นค่าน า ณ สถานที่จ่ายน า
1 Guidelines for Drinking‑water Quality (PDF) (Report) (4 ed.). World Health Organization. 2017. p. 631. ISBN
978-92-4-154995-0.
2 การจัดการคุณภาพน าบริโภค http://foodsan.anamai.moph.go.th/download/D_EHA/2557/Instructors/
-114-