Page 40 - kpiebook62004
P. 40

บทบาทนานาชาติต่อกระบวนการสร้างสันติภาพในชายแดนใต้ของไทยและบางมุมมองต่อภาพอนาคต






                              (ปิยนำถ บุนนำค, 2534) โดยเฉพำะในช่วงเร่งรัดสร้ำงรัฐชำติไทยนิยมในยุคจอมพล ป. พิบูล
                              สงครำม  อีกด้ำนหนึ่งเป็นเพรำะควำมเข้มแข็งของอัตลักษณ์ทำงศำสนำและ ชำติพันธุ์ของ

                              ชำวมลำยูมุสลิมที่ไม่สำมำรถจะปรับตัวหรือผสมกลมกลืนตัวเองให้เข้ำกับกรอบคิด “ควำม
                              เป็นไทย” ของรัฐ (อำรง สุทธำศำสน์, 2529, น. 173-174) ไม่เหมือนคนกลุ่มน้อยกลุ่มอื่นๆ

                              เช่น คนลำว คนเวียดนำม คนจีน ที่ยอมปรับเปลี่ยนตัวเองให้เข้ำกับนิยำมควำมเป็นคนไทย


                              นอกจำกนี้ ยังมีค ำอธิบำยที่น่ำสนใจว่ำเหตุใดควำมรุนแรงในพื้นที่จึงปะทุขึ้นและหนักหนำ

                   กว่ำเดิม เช่น คณะกรรมำธิกำรวิสำมัญของวุฒิสภำ (2542) ให้ค ำอธิบำยโดยสรุปว่ำมีหลำยสำเหตุ เช่น
                   ควำมยำกจน ควำมไม่เป็นธรรม ควำมแตกต่ำงทำงศำสนำ ภำษำ และวัฒนธรรมที่ก่อให้เกิดควำมไม่เข้ำใจ

                   หรือควำมเข้ำใจผิด หวำดระแวง และควำมรู้สึกในทำงลบต่ออ ำนำจรัฐที่สะสมมำเป็นเวลำนำน

                   (คณะกรรมำธิกำรวิสำมัญวุฒิสภำ, 2542 อ้ำงถึงใน กอส. 2549, น. 10)
                              ในขณะที่นักศึกษำวิทยำลัยป้องกันรำชอำณำจักรได้แบ่งสำเหตุของปัญหำออกเป็น 4 ด้ำน

                   คือ 1) ด้ำนสังคมจิตวิทยำ ที่หมำยถึงปัจจัยทำงประวัติศำสตร์และลักษณะเฉพำะทำงศำสนำและ

                   วัฒนธรรมของคนในพื้นที่ ซึ่งพวกเขำบอกว่ำ “เป็นหัวใจส ำคัญของควำมขัดแย้งและควำมควำมรุนแรงครั้ง
                   นี้ และ ท้ำทำยกำรปกครองของประเทศชำติอย่ำงมำก” 2) ด้ำนกำรเมือง มองว่ำปัญหำเกิดจำกนโยบำย

                   ของรัฐไม่ตรงกับควำมต้องกำรของท้องถิ่น และกลไกของรัฐขำดประสิทธิภำพ ตลอดจนรัฐเข้ำใจปัญหำ
                   กำรก่อกำรร้ำยผิดพลำด และที่ส ำคัญคือ ไม่กล้ำด ำเนินกำรกับนักกำรเมืองที่เกี่ยวข้องกับปัญหำ 3) ด้ำน

                   เศรษฐกิจ   ก็สรุปว่ำสถำนกำรณ์รุนแรงกระทบต่อรำยได้และท ำให้กำรอุปโภคบริโภคลดลง และ 4) ด้ำน

                   กำรป้องกันประเทศ เห็นว่ำหัวใจของปัญหำอยู่ที่แนวคิดแบ่งแยกดินแดนอันเป็นผลพวงมำจำก
                   ประวัติศำสตร์ กำรเมืองกำรปกครองและปัจจัยทำงสังคมจิตวิทยำอีกทีหนึ่ง (วิทยำลัยป้องกัน

                   รำชอำณำจักร, 2547 อ้ำงถึงใน กอส. 2549, น. 10)
                              ส ำหรับค ำอธิบำยเชิงวิเครำะห์สำเหตุของควำมรุนแรงระลอกใหม่ คณะกรรมกำรอิสระเพื่อ

                   ควำมสมำนฉันท์แห่งชำติ (กอส.) (2549) วินิจฉัยว่ำควำมรุนแรงในจังหวัดชำยแดนภำคใต้ประกอบด้วย

                   เงื่อนไขที่เป็นสำเหตุอันสำมำรถแยกได้เป็นชั้นควำมรุนแรง 3 ชั้น กล่ำวคือ
                              ชั้นที่ 1 ชั้นตัวบุคคล หรือกลุ่มผู้กระท ำควำมรุนแรง ซึ่งมีตัวแสดงทั้งในฟำกรัฐและในฝ่ำย

                   ผู้ก่อกำรควำมรุนแรงที่เข้ำมำเกี่ยวข้องอยู่เป็นจ ำนวนมำก และส ำหรับฝ่ำยหลังนี้ยำกจะจับกุมเพรำะเป็น

                   กลุ่มที่มีโครงสร้ำงองค์กรไม่ชัดเจน ทั้งยังมีหลำยกลุ่ม รวมทั้งกลุ่มที่เรียกว่ำ “กลุ่มอิทธิพลผลประโยชน์”
                   และ กลุ่มที่ท ำควำมรุนแรงเพรำะเรื่องส่วนตัว (กอส., 2549, น. 13-14)

                              ชั้นที่ 2 คือชั้นโครงสร้ำงของสังคมซึ่งแยกออกไปเป็นเรื่องของกำรบังคับใช้ข้อกฎหมำยต่ำงๆ

                   ที่ยังเป็นปัญหำเรื่องควำมไม่เป็นธรรมและไม่สำมำรถอ ำนวยควำมยุติธรรมได้อย่ำงมีประสิทธิผล ทั้งผู้คนใน
                   พื้นที่เองก็ยังมีทัศนคติที่ไม่ดีต่อกำรบังคับใช้กฎหมำยของเจ้ำหน้ำที่รัฐ ยิ่งกว่ำนั้น ภำยใต้ พ.ร.บ.ฉุกเฉิน ที่



                                                             27
   35   36   37   38   39   40   41   42   43   44   45