Page 64 - b30427_Fulltext
P. 64
กฎหมายกีฬาของต่างประเทศและประเทศไทย: กฎหมายกีฬาของต่างประเทศและประเทศไทย:
ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายกีฬาอังกฤษ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและไทย ศึกษาเปรียบเทียบระหว่างกฎหมายกีฬาอังกฤษ ญี่ปุ่น สหรัฐอเมริกาและไทย
หรือการแข่งขันกีฬาโดยเคารพต่อกฎกติกาของการแข่งขันกีฬาและปฏิบัติตาม
กฎหมายบ้านเมือง (กฎหมายกีฬา) ล้วนแล้วแต่เป็นส่วนสำคัญทำให้เกมกีฬาดำเนิน
ต่อไปได้อย่างราบรื่นและปกติสุข การคำนึงถึงกฎกติกาของการแข่งขันกีฬาและปฏิบัติ
ตามกฎหมายบ้านเมือง รวมทั้งการรู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัยย่อมเป็นคุณธรรมของการละเล่น
กีฬาหรือการแข่งขันที่เป็นธรรมอย่างหนึ่งที่ถูกเรียกว่าความมีน้ำใจนักกีฬา
(Sportsmanship) นักกีฬาสมัครเล่นและนักกีฬาอาชีพพึงต้องระลึกเสมอและ
ทำความเข้าใจว่าการละเล่นกีฬาหรือการแข่งขันกีฬาต้องเป็นไปด้วยความเคารพต่อ
ผู้เล่นฝ่ายตรงข้ามและความซื่อสัตย์ต่อคู่แข่งขัน ไม่กระทำการฝ่าฝืนกฎกติกา
การแข่งขันกีฬาและไม่กระทำการอันละเมิดต่อกฎหมายบ้านเมือง (กฎหมายกีฬา)
ที่กำหนดลักษณะของการกระทำหรือไม่กระทำอย่างใดเกี่ยวข้องกับกิจกรรมกีฬาหรือ
การแข่งขันกีฬาที่กฎหมายบ้านเมืองถือว่าเป็นความผิด และได้กำหนดบทลงโทษ
สำหรับผู้กระทำการอันละเมิดกฎหมายบ้านเมือง (กฎหมายกีฬา) เอาไว้
หลักการแข่งขันที่เป็นธรรมหรือ “Fair Play” ถือเป็นหัวใจสำคัญของกีฬาและ
การกีฬา หลักการนี้ได้ถูกนำมาผนวกหรือนำมาแฝงไว้กับมาตรฐานสากลในเรื่องกีฬา
และการแข่งขันกีฬา ทำนองเดียวกันหลักการนี้ได้ถูกรณรงค์และสร้างความตระหนักให้
กลายมาเป็นจุดร่วมหลักอันก่อให้เกิดธรรมาภิบาลในวงการกีฬา สะท้อนได้จากการที่
นโยบายสาธารณะด้านกีฬาและกฎหมายกีฬาของต่างประเทศและประเทศไทย
ได้พยายามนำเอาหลักเกณฑ์ มาตรการและกลไกสำคัญหลายประการ มากำหนด
เอาไว้เป็นลายลักษณ์อักษรเพื่อรับรองหรือคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของนักกีฬา ทั้งสิทธิ
ในเนื้อตัวร่างกาย ทรัพย์สิน หรือเสรีภาพอื่น ๆ ในฐานะที่เป็นนักกีฬา ในทำนองเดียวกัน
หลักดังกล่าวก็ถูกองค์กรกำกับกีฬาใช้เป็นเครื่องมือสำคัญในการขับเคลื่อนให้เกิด
การจัดการแข่งขันกีฬาที่เป็นธรรมและใช้เป็นเครื่องมือกำกับธรรมาภิบาลการปกครอง
ควบคุมการแข่งขันกีฬาให้ได้มาตรฐานสากล ความพยายามในการรับรองหลักการแข่งขัน
ที่เป็นธรรมหรือ “Fair Play” มีอยู่เรื่อยมาควบคู่กับสังคมกีฬา เนื่องจากผู้กำหนด
นโยบายกีฬา (Sports Policy Makers) และผู้จัดทำกฎหมาย (Lawmakers)
มักหยิบยกหลักการดังกล่าวมาเป็นปรัชญาของกติกาและจรรยาบรรณในการอยู่ร่วมกัน
ในสังคมกีฬา ที่ผู้มีส่วนได้ส่วนเสียในแวดวงกีฬาย่อมต้องรู้จักรักษาจิตวิญญาณของ
นักกีฬา (Spirit of Sportsmanship) ไปพร้อมกับตระหนักว่านักกีฬาและผู้เกี่ยวข้อง
อื่น ๆ ต้องละเล่นกีฬาหรือจัดการแข่งขันกีฬาอันคำนึงถึงเกมการแข่งขันที่เป็นธรรมกับ
ทุกฝ่าย โดยปราศจากกฎกติกาในเชิงกีดกันหรือเลือกปฏิบัติต่อฝ่ายหนึ่งฝ่ายใด
สถาบันพระปกเกล้า