Page 142 - 30423_Fulltext

136

1. การเก็บตัวฝึกซ้อม เช่น ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่ทีม ค่าเบี้ยเลี้ยง ค่าที่พัก ค่าใช้สนาม

ฝึกซ้อม ค่าพาหนะ ค่าอาหาร ค่าวีซ่า ค่าประกันการเดินทาง ค่าขนย้ายอุปกรณ์ฝึกซ้อม เป็นต้น

2. การจ้างผู้ฝึกสอนกีฬาและผู้เชี่ยวชาญกีฬา เช่น ค่าตอบแทน ค่าที่พัก ค่าเดินทาง ค่า

ประกันสุขภาพ ประกันอุบัติเหตุ ค่าวีซ่า เป็นต้น

3. การส่งแข่งขันกีฬา เช่น ค่าสมัครการแข่งขัน ค่าเดินทาง ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าเบี้ยเลี้ยง

เป็นต้น ทั้งของนักกีฬาและเจ้าหน้าที่

4. การจัดการแข่งขันกีฬา เช่น ค่าที่พักและอาหาร ค่าตอบแทนผู้ตัดสิน ค่าใช้จ่ายสนาม

แข่งขัน ค่าพาหนะ ค่าโฆษณาประชาสัมพันธ์ เงินอุดหนุนการด าเนินการจัดการแข่งขัน เป็นต้น

5. การพัฒนาบุคลากรกีฬา เช่น ค่าตอบแทนวิทยากร ค่าที่พัก ค่าอาหาร ค่าอาหารว่างและ

เครื่องดื่ม เงินอุดหนุนเป็นค่าใช้จ่ายสมทบเหมาจ่ายด าเนินงาน เป็นต้น

6. การพัฒนาสมาคมกีฬา พิจารณาตามความเหมาะสม

7. ด้านวิทยาศาสตร์การกีฬา เช่น ค่าจ้างบุคลากรนักวิทยาศาสตร์การกีฬา ค่าตอบแทนการ

ปฏิบัติหน้าที่ของแพทย์ พยาบาล นักวิทยาศาสตร์การกีฬา ค่าตอบแทนนักกายภาพบ าบัด
ค่าตอบแทนเจ้าหน้าที่นวด อุปกรณ์วิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีการกีฬา เป็นต้น

8. อุปกรณ์กีฬา เช่น อุปกรณ์สิ้นเปลือง อุปกรณ์ประจ า อุปกรณ์สนับสนุน ในการฝึกซ้อม
หรือแข่งขัน

9. การส่งเสริมหรือการสนับสนุนอื่นๆ ที่เกี่ยวข้องต่อการพัฒนากีฬา เช่น การจัดงานยกย่อง
เชิดชูเกียรติ การถ่ายทอดกีฬา การผลิตสื่อกีฬา การประชาสัมพันธ์ เป็นต้น

ในด้านการสนับสนุนเงินรางวัลแก่นักกีฬา บุคลากรกีฬา และสมาคมกีฬา ที่ใช้ค าว่า “แห่ง
ประเทศไทย” ซึ่งประกอบคุณความดีแก่การกีฬาของชาติ หรือน าชื่อเสียงเกียรติภูมิมาสู่ประเทศชาติ

นั้น คณะกรรมการบริหารกองทุนพัฒนาการกีฬาแห่งชาติ ได้ออกประกาศในปี 2562 โดยก าหนด

แบ่งกลุ่มกีฬา 6 ประเภท คือ 1. กลุ่มกีฬาสมัครเล่น รุ่นทั่วไป เช่นรายการโอลิมปิกเกมส์ เอเซียน
เกมส์ เอเซียนอินดอร์มาเชี่ยลอาร์ทเกมส์ เอเชียนบีชเกมส์ ซีเกมส์ ชิงชนะแห่งโลก ชิงชนะเลิศแห่ง

เอเซีย 2. กลุ่มกีฬาสมัครเล่น รุ่นเยาวชน เช่น ยูธโอลิมปิกเกมส์ เอเซียนยูธเกมส์ ชิงชนะแห่งโลก

ชิงชนะเลิศแห่งเอเซีย 3. กลุ่มกีฬาสมัครเล่น รุ่นสูงอายุ เป็นรายการชิงชนะเลิศแห่งโลก 4.กลุ่มกีฬา
คนพิการ เช่น พาราลิมปิกเกมส์ เอเซียนพาราเกมส์ อาเซียนพาราเกมส์ ชิงชนะเลิศแห่งโลกคนพิการ